นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็ปเป้ (SAPPE) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมพร้อมรับเทรนด์กัญชง โดยได้ลงนามความร่วมมือและบันทึกข้อตกลง (MOA) กับ บจ.ไทย เฮมพ์ เวลเนส ในโครงการส่งเสริมการปลูกพืชกัญชง เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นการช่วยสร้างอาชีพให้กับเกษตรกรและกลุ่มชาติพันธุ์ในจังหวัดเชียงราย โดยเป็นความร่วมมือสนับสนุนการลงทุนสำหรับต้นกล้ากัญชง ปุ๋ยอินทรีย์ และผลิตภัณฑ์จุลินทรีย์คุณภาพสูง เพื่อเพิ่มผลผลิต
พร้อมจัดทีมนักวิชาการให้คำแนะนำการปลูก การดูแลรักษา การเก็บเกี่ยว และการปฏิบัติตามข้อกฎหมาย กับเกษตรกร รวมไปถึงรับซื้อผลผลิตและจะนำผลผลิตที่ได้สกัดเป็นสาร CBD และน้ำมันเมล็ดกัญชง (hemp seed oil) และจะนำไปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ในอนาคต
ทั้งนี้ SAPPE ได้ทดลองออกผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นเทอร์ปีน แบรนด์เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์ กรีน รีแล็กซิ่งคาล์ม (Green Relaxing Calm) นำเอากลิ่นเทอร์ปีนซึ่งเป็นกลิ่นลักษณะเดียวกับในใบกัญชามาใช้เป็นส่วนผสม ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคดีพอสมควร คาดว่าหลังจากที่กฎหมายปลดล็อกให้ใช้สารสกัดจากกัญชา-กัญชงแล้ว จะมีผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ๆ มาเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภคมากขึ้น สร้างกระแสให้ตลาดอาหาร-เครื่องดื่มกลับมาคึกคัก ตอบรับการผ่อนคลายมาตรการช่วงโควิดด้วย
ล่าสุดบริษัทฯ ได้ร่วมงาน “การปลูกกัญชงต้นแรก 1,600 ไร่ในเชียงราย” กับบริษัท ไทย เฮมพ์ เวลเนส จำกัด มูลนิธิวนเกษตรอินทรีย์ องค์กรภาครัฐ เอกชน และเกษตรกร เพื่อร่วมกันปลูกกัญชงนำร่องบนพื้นที่ ต.ดงมะดะ อ.แม่ลาว จ.เชียงราย
ด้านนายเสฐียรพงศ์ แก้วสด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย เฮมพ์ เวลเนส จำกัด กล่าวว่า การจัดงานปลูกกัญชงต้นแรก 1,600 ไร่ ในพื้นที่จังหวัดเชียงรายครั้งนี้ เพื่อให้กลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ ทราบแนวทางการผลักดันของภาคธุรกิจ โดยตอนนี้กลุ่มพืชที่สามารถทำการเพาะปลูกได้ถูกต้องตามกฎหมายมี 2 ชนิด คือ 1.กัญชง มี สาร CBD สูง 2.กระท่อม ซึ่งภาครัฐให้การปลดล็อกเมื่อเร็วๆ นี้ สามารถสกัดทำเป็นรูปแบบของเครื่องดื่มได้ แต่ยังต้องวิจัยและศึกษาสารสกัดเพิ่มเติม โดยเซ็ปเป้เป็นหนึ่งในภาคเอกชน ที่ลงนาม MOA เพื่อใช้สารสกัดในการผลิตสินค้ากับทางบริษัท ซึ่งอยู่ในกระบวนการผลิตสารสกัดเพื่อส่งมอบให้
สำหรับพื้นที่ จ.เชียงราย ถือเป็นแห่งแรกที่มีการปักหมุดเพื่อปลูกต้นกัญชงในเชิงพาณิชย์ โดยบริษัทฯ มีแผนจะส่งเสริมการปลูกในช่วงแรก 1,600 ไร่ จากนั้นภายใน 5 ปีจะเพิ่มให้เป็นประมาณ 100,000 ไร่ เกษตรกรปลูกได้ 2 ครั้ง/ปี ใช้เวลาเพาะปลูก 4 เดือน ก็สามารถเก็บผลิตส่งจำหน่ายให้บริษัทไทยเฮมพ์ เวลเนส จำกัด เพื่อนำไปสกัดสาร CBD ส่งต่อให้กับเอกชนต่อไป จึงนับเป็นพืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ สร้างความยั่งยืนให้กับเกษตรกร ชุมชน และองค์กรธุรกิจของไทยได้เป็นอย่างดี
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ก.ย. 64)
Tags: SAPPE, ปลูกกัญชง, ปิยจิต รักอริยะพงศ์, เซ็ปเป้