นายประจักษ์ บุญยัง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เปิดเผยถึงกรณีที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มีความประสงค์จะจัดซื้อวัคซีนทางเลือก (โควิด-19) จากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และมีการให้ข้อมูลข่าวสารในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)
โดยระบุว่าอาจเป็นปัญหาที่ สตง.จะตรวจสอบว่าเป็นการใช้เงินผิดประเภทนั้น ขอชี้แจงว่า ในสถานการณ์ปัจจุบันมีความจำเป็นต้องจัดหาและฉีดวัคซีนให้กับประชาชนอย่างรวดเร็วและทันต่อสถานการณ์ ดังนั้นไม่ว่า อปท., ภาคเอกชน หรือหน่วยงานใดที่ประสงค์จะเข้ามาช่วยรัฐบาลในการจัดซื้อวัคซีน การกระจายวัคซีน ตลอดจนการฉีดวัคซีนและการดูแลประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบหรือผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนถือเป็นเรื่องที่ดีและควรต้องเร่งดำเนินการ
ส่วนประเด็นการเบิกจ่ายเงินให้ถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องนั้นเป็นเรื่องที่ สตง.พร้อมให้คำแนะนำ ตอบข้อสงสัย หรือเป็นที่ปรึกษาให้กับหน่วยงานที่มีความตั้งใจและพร้อมที่จะดำเนินการเพื่อประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง
“สิ่งที่รัฐบาล หรือ ศบค.ต้องเร่งพิจารณาตัดสินใจให้ชัดเจน คือ จะมีนโยบายและข้อสรุปในเรื่องนี้อย่างไร และชี้แจงหรือสื่อสารให้ประชาชนได้รับทราบเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนในการดำเนินการของภาครัฐ ทั้งในภาพรวมของประเทศและในระดับพื้นที่”
นายประจักษ์ กล่าว
ทั้งนี้ สตง.ตระหนักถึงความปลอดภัยของประชาชน บุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเป็นสำคัญ สตง.จึงพร้อมให้การสนับสนุนการดำเนินการใดๆ ที่เป็นไปตามเจตนารมณ์ดังกล่าวด้วยความสุจริตและโปร่งใส
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 มิ.ย. 64)
Tags: ประจักษ์ บุญยัง, ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์, วัคซีนต้านโควิด-19, วัคซีนทางเลือก, ศบค., สตง., สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น, อปท.