สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทะลุระดับ 72 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (15 ก.ย.) ขานรับสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 6 ซึ่งทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 2.15 ดอลลาร์ หรือ 3.1% ปิดที่ 72.61 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 1.86 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 75.46 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI และน้ำมันดิบเบรนท์ต่างก็ปิดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค.ปีนี้ ขานรับรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 6.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 3.5 ล้านบาร์เรล
ตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของ EIA สอดคล้องกับที่สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) รายงานก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 5.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
นอกจากนี้ ข้อมูลของ EIA ยังระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ ลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 2.2 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 1.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 2 ล้านบาร์เรล
ตลาดได้รับปัจจัยหนุนมากขึ้นหลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ออกรายงานระบุว่า การฉีดวัคซีนโควิด-19 ในวงกว้างจะช่วยหนุนอุปสงค์น้ำมันทั่วโลก หลังจากดิ่งลงในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา อันเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ก.ย. 64)
Tags: lifestyle, WTI, น้ำมัน WTI, น้ำมันดิบ, ราคาน้ำมัน