รัฐบาลอังกฤษเตรียมเริ่มระดมฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้กับประชาชนกลุ่มสูงอายุและกลุ่มเปราะบาง โดยเป็นการเลือกพึ่งพาวัคซีน แทนการใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อรับมือกับฤดูหนาวที่อาจมีอุปสรรคมากขึ้น
หน่วยงานสาธารณสุขของอังกฤษระบุว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้ช่วยชีวิตประชาชนไปแล้วกว่า 112,000 ราย และป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อได้มากถึง 24 ล้านครั้ง ขณะเดียวกัน ทางหน่วยงานได้เสนอให้มีการฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิให้กับบุคลากรสาธารณสุขด่านหน้า รวมถึงประชาชนอายุ 50 ปีขึ้นไปและกลุ่มเปราะบางด้านสุขภาพ โดยเริ่มจากผู้ที่ความเสี่ยงมากที่สุดเป็นอันดับแรก
แม้ขณะนี้จะยังไม่มีหลักฐานชัดเจนถึงประสิทธิภาพของการฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิ แต่นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษก็คาดหวังว่า การฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิจะช่วยให้โรงพยาบาลของอังกฤษสามารถรับมือกับโรคประจำฤดูหนาวโรคอื่นๆ ได้ โดยไม่ต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์
นอกจากนี้ นายจอห์นสันยังได้ประกาศแผนสำรองที่จะกำหนดให้ประชาชนต้องแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีนในบางสถานการณ์ รวมถึงบังคับให้ใส่หน้ากากอนามัย และขอให้ประชาชนทำงานจากที่บ้าน
“เราตัดสินใจเดินหน้าตามแผนฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ซึ่งแปลว่าเราจะสามารถใช้วัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันได้มากขึ้นในประเทศ” นายจอห์นสันแถลงข่าว โดยกล่าวเสริมว่า แผนสำรองจะช่วยให้อังกฤษหลีกเลี่ยงการใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจได้
“เมื่อประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศมีภูมิคุ้มกันแล้ว ดังเช่นที่เราเป็นอยู่ขณะนี้ การเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยก็สามารถสร้างความแตกต่างครั้งใหญ่ได้ และทำให้เรามั่นใจได้ว่าจะไม่ต้องกลับไปใช้มาตรการล็อกดาวน์เหมือนก่อนหน้านี้” นายจอห์นสันระบุ
ด้านนายซาจิด จาวิด รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขเผยว่า แผนฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันของอังกฤษจะเริ่มขึ้นภายในสัปดาห์หน้า โดยคาดว่า จะมีการบังคับให้บุคลากรทางการแพทย์ทุกรายต้องฉีดวัคซีน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ก.ย. 64)
Tags: COVID-19, วัคซีนต้านโควิด-19, อังกฤษ, โควิด-19