นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อทุกภาคส่วนในสังคม รวมทั้งภาคธุรกิจ โดยเฉพาะ SMEs ซึ่งเป็นกำลังสำคัญและเป็นผู้ประกอบการส่วนใหญ่ของประเทศ EXIM BANK เตรียมวงเงินอีก 5,000 ล้านบาท อัดฉีดเข้าระบบเศรษฐกิจภายใต้บริการใหม่ “สินเชื่อเอ็กซิม Jump start” ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อช่วยเติมทุนให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ในทุกกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เป็นเงินทุนหมุนเวียน อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นที่ 3% ต่อปี กู้ได้สูงสุด 50 ล้านบาท สำหรับวงเงินกู้ไม่เกิน 10 ล้านบาทไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ค้ำประกันเต็มวงเงิน ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถขอรับบริการได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึง 31 พฤษภาคม 2565
“สินเชื่อเอ็กซิม Jump Start เป็นบริการใหม่ที่ EXIM BANK พัฒนาขึ้น เพื่อทำหน้าที่เสมือนแบตเตอรี่เติมไฟให้ SMEs มีกำลังขับเคลื่อนกิจการและเศรษฐกิจของประเทศไทยไปข้างหน้าได้ ได้รับวงเงินหมุนเวียนโดยเร่งด่วนและเพียงพอที่จะประกอบธุรกิจได้เป็นปกติ สอดคล้องกับแนวนโยบายของ EXIM BANK ที่มุ่งเป็นธนาคารเพื่อการพัฒนาควบคู่กับการอำนวยความสะดวกด้านการค้าระหว่างประเทศให้แก่ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs ซึ่งปัจจุบันหลายกิจการกำลังประสบปัญหาสภาพคล่องทางธุรกิจจากผลกระทบของโควิด-19 EXIM BANK จึงเร่งพัฒนาธุรกิจและบริการที่จะทำหน้าที่ซ่อม สร้าง และเสริมให้ภาคธุรกิจแข็งแรงและแข่งขันได้ในตลาดโลก รวมถึงตลาดใหม่ ๆ ที่ยังมีโอกาสทางธุรกิจอีกมากสำหรับผู้ประกอบการไทย”
นายรักษ์ กล่าว
ปัจจุบัน EXIM BANK ได้เติมทุนให้แก่ผู้ประกอบการแล้วจำนวนกว่า 2,200 ราย เป็นเม็ดเงินใหม่ที่เติมเข้าระบบเศรษฐกิจรวมกว่า 10,000 ล้านบาท และพักหนี้ให้แก่ผู้ประกอบการรวมแล้วเป็นจำนวนเงินประมาณ 50,000 ล้านบาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 พ.ค. 64)
Tags: EXIM BANK, Jump Start, SMEs, ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย, บสย., ผู้ประกอบการ, รักษ์ วรกิจโภคาทร, สินเชื่อ, สินเชื่อเอ็กซิม