นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ (ครม.สัญจร) เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่..) พ.ศ. …. ตามที่กรมสรรพสามิตเสนอ ซึ่งเป็นการปรับปรุงเงื่อนไขการจัดเก็บภาษีรถยนต์ Plug-in Hybrid Electric Vehicle (PHEV) ใหม่ เพื่อให้มีอัตราภาษีที่แตกต่างจากรถยนต์ Hybrid Electric Vehicle (HEV)
โดยกำหนดเงื่อนไขการคำนวณอัตราภาษีสรรพสามิตเฉพาะระยะทางการวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้า (Electric Range) ต่อการประจุไฟฟ้า 1 ครั้ง (การชาร์จ) เท่านั้น และยกเลิกขนาดถังน้ำมัน (Fuel Tank) ไม่ให้เป็นเงื่อนไขการกำหนดอัตราภาษี PHEV อีกต่อไป เนื่องจากเป็นการลดศักยภาพของประเทศในการเป็นศูนย์กลางการผลิต เพราะต้องผลิตถังน้ำมันที่ไม่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล อีกทั้งยังเป็นการสร้างข้อจำกัดโดยไม่จำเป็น สร้างภาระแก่ประชาชน และทำให้ PHEV ไม่ได้รับความนิยม
สำหรับอัตราอัตราภาษีสรรพสามิตตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.69 กำหนดไว้ดังนี้
1.รถยนต์นั่งหรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน ประเภท PHEV ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกำหนด ที่มีระยะวิ่งด้วยระยะทางการวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้า (Electric Range) ไม่ต่ำกว่า 80 กิโลเมตร ต่อการประจุไฟฟ้า 1 ครั้ง (การชาร์จ) ให้มีอัตราภาษีสรรพสามิตที่ 5%
2.รถยนต์นั่งหรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน ประเภท PHEV ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกำหนด ที่มีระยะวิ่งด้วยระยะทางการวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้า (Electric Range) ต่ำกว่า 80 กิโลเมตร ต่อการประจุไฟฟ้า 1 ครั้ง (การชาร์จ) ให้มีอัตราภาษีสรรพสามิตที่ 10%
การกำหนดพิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าวสอดคล้องกับหลักสากล ซึ่งจะช่วยส่งเสริมและต่อยอดให้ไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ PHEV ที่มีมาตรฐานและสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ และดึงดูดเม็ดเงินลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในช่วงการเปลี่ยนผ่านจากสันดาปภายในไปสู่ยานยนต์แห่งอนาคต อีกทั้งยังช่วยตอบสนองต่อความต้องการใช้รถยนต์ PHEV ที่สามารถใช้พลังงานไฟฟ้าในเขตตัวเมือง และใช้พลังงานผสมในการเดินทางระหว่างเมือง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 เม.ย. 68)
Tags: กรมสรรพสามิต, กระทรวงการคลัง, ภาษีรถยนต์ไฟฟ้า, ภาษีสรรพสามิต, รถ PHEV, เผ่าภูมิ โรจนสกุล