ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันศุกร์ (25 เม.ย.) ว่า สหรัฐฯ ใกล้จะบรรลุข้อตกลงกับญี่ปุ่นแล้ว ขณะที่ทั้งสองประเทศยังคงเดินหน้าเจรจาเกี่ยวกับภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ต่อไป
คำกล่าวของทรัมป์มีขึ้นในขณะที่ เรียวเซ อาคาซาวะ ตัวแทนของญี่ปุ่นในการเจรจาเรื่องภาษีกับรัฐบาลสหรัฐฯ มีกำหนดเดินทางเยือนกรุงวอชิงตันเป็นเวลา 3 วัน เริ่มตั้งแต่วันพุธหน้า เพื่อเข้าร่วมการเจรจารอบที่สอง
อาคาซาวะได้ขอให้สหรัฐฯ ทบทวนการเก็บภาษีนำเข้าที่กระทบกับสินค้าส่งออกหลายรายการของญี่ปุ่น รวมถึงสินค้าจากอุตสาหกรรมยานยนต์ขนาดใหญ่ของประเทศ
“ผมมีความสัมพันธ์ที่ดีมากกับญี่ปุ่น เราใกล้จะได้ข้อตกลงแล้ว” ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว ก่อนออกเดินทางไปร่วมพิธีศพของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสที่กรุงโรม โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
ทั้งนี้ มีรายงานว่าทรัมป์มองว่า การเจรจาภาษีกับญี่ปุ่นซึ่งเป็นคู่ค้าและพันธมิตรด้านความมั่นคงที่สำคัญของสหรัฐฯ เป็นลำดับความสำคัญสูงสุด และมองว่าเป็นตัวอย่างสำคัญสำหรับประเทศอื่น ๆ ที่หวังจะได้รับการยกเว้นหรือลดหย่อนภาษีของสหรัฐฯ ที่มีผลครอบคลุมในวงกว้าง
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ทรัมป์ใช้การเก็บภาษีนำเข้าสูงขึ้นกับรถยนต์ เหล็ก และอะลูมิเนียมเป็นเครื่องมือในการลดการขาดดุลการค้าจำนวนมหาศาลของสหรัฐฯ และตอบโต้ต่อสิ่งที่เขามองว่าเป็นพฤติกรรมทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม หลังจากกลับเข้าสู่ตำแหน่งในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา
ญี่ปุ่นยังต้องเผชิญกับภาษีนำเข้าตอบโต้รวม 24% ซึ่งประกอบด้วยภาษีพื้นฐาน 10% และภาษีเฉพาะประเทศอีก 14% โดยภาษีที่กำหนดเฉพาะประเทศนี้ซึ่งประกาศพร้อมกับอีกหลายประเทศคู่ค้าของสหรัฐฯ ตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย.ได้ถูกระงับชั่วคราวภายหลังจากเกิดความผันผวนในตลาดการเงิน โดยเฉพาะตลาดพันธบัตร
ด้านสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ระบุเมื่อวันศุกร์ว่า ทางสหรัฐฯ ยังคงเจรจาอย่างต่อเนื่องกับญี่ปุ่นและประเทศอื่น ๆ เกี่ยวกับแนวทางความร่วมมือด้านการค้าแบบต่างตอบแทน ที่อาจทำให้สามารถยกเลิกหรือลดภาษีที่ระดับ 10% ในปัจจุบันลงได้
โฆษกของ USTR กล่าวว่า การเจรจาดังกล่าวมีความคืบหน้าและเน้นในรายละเอียดเชิงเทคนิค แต่ท้ายที่สุดแล้ว ทรัมป์จะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะเดินหน้าทำข้อตกลงทางเลือกกับประเทศใดบ้าง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 เม.ย. 68)
Tags: ญี่ปุ่น, ภาษีนำเข้า, สหรัฐ, เจรจาการค้า, โดนัลด์ ทรัมป์