ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันศุกร์ (25 เม.ย.) ที่ระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ และทำสถิติบวกติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 2 โดยได้แรงหนุนจากสัญญาณการผ่อนคลายความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งกระตุ้นให้นักลงทุนหันมาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 520.45 จุด เพิ่มขึ้น 1.84 จุด หรือ +0.35% และปรับตัวขึ้น 2.7% ในรอบสัปดาห์นี้
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,536.26 จุด เพิ่มขึ้น 33.48 จุด หรือ +0.45%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 22,242.45 จุด เพิ่มขึ้น 177.94 จุด หรือ +0.81% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,415.25 จุด เพิ่มขึ้น 7.81 จุด หรือ +0.09%
จีนยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าบางรายการจากสหรัฐฯ ที่เดิมถูกเก็บภาษี 125% ซึ่งเป็นสัญญาณล่าสุดของความพยายามร่วมกันในการลดความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองประเทศ
ด้านทำเนียบขาวแสดงท่าทีพร้อมเจรจากับจีนเกี่ยวกับภาษีในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ กล่าวในการให้สัมภาษณ์ว่า การหารือกับจีนกำลังดำเนินอยู่ แม้จีนจะปฏิเสธเรื่องนี้ก็ตาม
ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ ดัชนีหุ้นกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานเพิ่มขึ้น 5.2% หลังจากความตึงเครียดทางการค้าทั่วโลกผ่อนคลาย ซึ่งช่วยหนุนราคาทองแดง ขณะที่ดัชนีหุ้นกลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วนซึ่งอ่อนไหวต่อประเด็นภาษี ปรับตัวขึ้น 5.7%
หุ้นกลุ่มป้องกันประเทศ รวมถึงกลุ่มก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง ปรับตัวขึ้นนำตลาดในวันศุกร์ โดยเพิ่มขึ้นราว 1.8%
สำหรับความเคลื่อนไหวของหุ้นรายตัวนั้น หุ้นซาฟราน (Safran) ผู้ผลิตเครื่องยนต์เจ็ตสัญชาติฝรั่งเศส พุ่งขึ้น 4.2% หลังประกาศรายได้ไตรมาสแรกสูงกว่าคาด และยืนยันความเชื่อมั่นว่าจะบรรลุเป้าหมายรายได้ทั้งปี แม้ยังไม่รวมผลกระทบจากภาษี โดยซีอีโอของซาฟรานเปิดเผยว่า จีนได้ยกเว้นภาษีนำเข้าชิ้นส่วนเครื่องบินบางรายการ รวมถึงเครื่องยนต์เจ็ต
หุ้นซีเมนส์ (Siemens) พุ่งขึ้น 3% หลังซิตี้กรุ๊ปแนะนำให้กลับไปซื้อหุ้นอีกครั้ง โดยมองว่าบริษัทจะได้ประโยชน์จากเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI)
หุ้นแอคคอร์ (Accor) ผู้ประกอบการโรงแรมรายใหญ่ที่สุดของยุโรป พุ่งขึ้น 6.3% และเป็นหุ้นที่ทำผลงานดีที่สุดในดัชนี CAC 40 ของฝรั่งเศส หลังรายงานรายได้ไตรมาสแรกเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 เม.ย. 68)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นยุโรป