พ.ต.ท.อนุรักษ์ โรจนนิรันดร์กิจ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีพิเศษกรณีความผิดฐานฟอกเงินของบุคคลหรือคณะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ตามที่อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้อนุมัติให้ทำการสอบสวนกรณีความผิดฐานฟอกเงินของบุคคลหรือคณะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 68 โดยมีคณะพนักงานอัยการจากสำนักงานอัยการสูงสุดมาทำการร่วมสอบสวนด้วย
โดยกรณีดังกล่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ จำนวน 3 รายที่ได้รับการแต่งตั้งจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้เป็นคณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวนให้มีหน้าที่และอำนาจในการสืบสวนและไต่สวนเรื่องคัดค้านการเลือกสมาชิกวุฒิสภาในทุกพื้นที่ตามที่ได้รับมอบหมาย
ขณะนี้คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินการในหลายประเด็น เช่น สอบปากคำพยานไปแล้ว จำนวน 30 ปาก ตรวจสอบข้อมูลทางธุรกรรมธนาคารของบุคคลในขบวนการ จำนวน 1,200 ราย ตรวจสอบข้อมูลผู้ใช้โทรศัพท์ จำนวน 20,000 เลขหมาย และทำฐานข้อมูลทางดิจิทัล ซึ่งมีความคืบหน้าไปพอสมควร ทั้งนี้ กกต. และกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะแยกกันสอบสวนคนละเรื่อง พิสูจน์ความผิดคนละกฎหมายตามอำนาจของแต่ละหน่วยงาน แต่ทำงานร่วมกันเพื่อให้ไม่เสียเวลา
ล่าสุดวานนี้ (23 เม.ย. ) กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับโอนสำนวนการสอบสวนจากสถานีตำรวจภูธรรัตนาธิเบศร์ และสถานีตำรวจภูธรโกสุมพิสัย ซึ่งมีผู้กล่าวหาในความผิดฐานอั้งยี่ฯ มาเพื่อดำเนินการสอบสวนรวมสำนวนในคดีพิเศษดังกล่าวแล้ว
โดยในวันพรุ่งนี้ (25 เม.ย. ) กรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จะเข้าสังเกตการณ์การตรวจสถานที่คัดเลือก สว. ระดับประเทศ และจำลองเหตุการณ์ เพื่อประกอบการสอบสวนคดีพิเศษในคดีฟอกเงิน สว. (คดีพิเศษที่ 24/2568) และใช้ประกอบการไต่สวนของกกต. ณ อาคาร Impact forum hall 4 เมืองทองธานี
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 เม.ย. 68)
Tags: DSI, กรมสอบสวนคดีพิเศษ, คดีฟอกเงิน, อนุรักษ์ โรจนนิรันดร์กิจ