ตลาดรถยนต์ใหม่ในยุโรปกลับมาขยายตัวอีกครั้งในเดือนมี.ค. โดยเพิ่มขึ้น 2.8% หลังจากหดตัวมาสองเดือนติดต่อกัน ซึ่งแรงขับเคลื่อนสำคัญมาจากการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของยอดขายในสหราชอาณาจักร (UK) และสเปน ขณะที่ข้อมูลล่าสุดจากสมาคมผู้ผลิตยานยนต์ยุโรป (ACEA) ชี้ว่า ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง สามารถชดเชยยอดขายรถยนต์สันดาปทั้งเบนซินและดีเซลที่ปรับตัวลดลงได้
ข้อมูลจาก ACEA ระบุว่า เฉพาะยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) ในเดือนมี.ค. พุ่งสูงขึ้นถึง 23.6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
สำหรับยอดขายรวมในเดือนมี.ค.ครอบคลุมพื้นที่สหภาพยุโรป (EU), UK และสมาคมการค้าเสรียุโรป (EFTA) มีจำนวนทั้งสิ้น 1.42 ล้านคัน
เมื่อพิจารณาเป็นรายแบรนด์ ยอดจดทะเบียนของโฟล์คสวาเกน (Volkswagen) และเรโนลต์ (Renault) เติบโตที่ 10.3% และ 13.0% ตามลำดับ สวนทางกับสเตลแลนทิส (Stellantis) ที่ยอดจดทะเบียนลดลง 5.9%
ขณะเดียวกัน เทสลา (Tesla) ผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ยังคงเผชิญกับยอดขายที่ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่สาม โดยลดลงถึง 28.2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดรวมลดลงเหลือ 2% จากเดิม 2.9% ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
หากมองเฉพาะตลาด EU ยอดขายรถยนต์โดยรวมกลับลดลง 0.2% เมื่อเทียบรายปี นับเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่สาม แม้ว่ายอดจดทะเบียนรถยนต์ในกลุ่มพลังงานไฟฟ้า ทั้งรถ BEV, รถยนต์ไฮบริด (HEV) และรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) จะเติบโตได้ดีที่ 17.1%, 23.9% และ 12.4% ตามลำดับก็ตาม
สัดส่วนของรถยนต์กลุ่มพลังงานไฟฟ้า (BEV, HEV และ PHEV) ที่ขายได้ในกลุ่มประเทศ EU คิดเป็น 59.2% ของยอดจดทะเบียนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลทั้งหมดในเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้นจาก 49.1% ในปีก่อนหน้า
ในกลุ่มตลาดหลักของ EU พบว่า ยอดจดทะเบียนรถยนต์ในสเปนและอิตาลีเพิ่มขึ้นที่ 23.2% และ 6.3% ตามลำดับ แต่ในทางกลับกัน ยอดในฝรั่งเศสและเยอรมนีกลับปรับตัวลดลง 14.5% และ 3.9% ส่วนใน UK เพิ่มขึ้น 12.4%
ผู้เชี่ยวชาญในตลาดให้ความเห็นว่า ความสนใจในรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นในยุโรป ซึ่งเป็นตลาด EV ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกนั้น ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากเป้าหมายการปล่อยมลพิษใหม่ของ EU รวมถึงการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ๆ ที่มีราคาเข้าถึงง่ายขึ้น แม้ว่าล่าสุด EU มีข้อเสนอให้ผ่อนปรนเป้าหมายด้านมลพิษดังกล่าวก็ตาม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 เม.ย. 68)
Tags: ตลาดรถยนต์, ยุโรป, รถยนต์ไฟฟ้า