ข้อมูลศุลกากรจีนที่เผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ (20 เม.ย.) เผยว่า จีนลดการนำเข้าสินค้าโภคภัณฑ์สหรัฐฯ ลงอย่างมากเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา จนถึงขั้นที่สินค้าบางชนิดไม่มีการนำเข้าเลย ขณะที่สงครามการค้าระหว่างสองมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลกร้อนระอุขึ้น
ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) และข้าวสาลีไม่มีการนำเข้าเลยในเดือนมี.ค. สวนทางกับปีที่แล้วซึ่งจีนนำเข้า LNG จากสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วน 5% และข้าวสาลี 17% ขณะที่การนำเข้าสินค้าเกษตรอื่น ๆ จากสหรัฐฯ ในเดือนมี.ค.ก็ลดลงอย่างมากเช่นกัน โดยยอดนำเข้าฝ้ายสหรัฐฯ ลดลงถึง 90% เมื่อเทียบรายปี เหลือเพียงประมาณ 14,000 ตัน ส่วนข้าวโพดนำเข้าไม่ถึง 800 ตัน ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2563
นอกจากนี้ การนำเข้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) จากสหรัฐฯ ซึ่งเป็นวัตถุดิบปิโตรเคมี ลดลง 36% เหลือ 1.02 ล้านตัน ขณะที่การนำเข้าถ่านหินสำหรับผลิตเหล็กกล้า ลดลง 62% เหลือ 208,000 ตัน
อย่างไรก็ตาม ถั่วเหลืองกลับมีแนวโน้มสวนทางกับการนำเข้าอื่น ๆ โดยปรับตัวเพิ่มขึ้น 12% สู่ระดับ 2.44 ล้านตัน ต่อยอดจากปริมาณนำเข้าที่สูงในช่วงสองเดือนแรกของปี เนื่องจากจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้าถั่วเหลืองรายใหญ่ที่สุดของโลก มักต้องพึ่งพาแหล่งผลิตจากสหรัฐฯ จนกว่าผลผลิตจากอเมริกาใต้จะออกสู่ตลาดในช่วงฤดูใบไม้ผลิของจีน
ทั้งนี้ จีนกำหนดภาษีตอบโต้สินค้าพลังงานของสหรัฐฯ ในอัตรา 10-15% ในเดือนก.พ. และสินค้าเกษตรในอัตราที่ใกล้เคียงกันในเดือนมี.ค. โดยปริมาณการซื้อของจีนคาดว่าจะลดลงอีกหลังจากสงครามการค้าทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงต้นเดือนเม.ย. เมื่อทั้งสองฝ่ายกำหนดภาษีศุลกากรเป็นวงกว้างมากกว่า 100% สำหรับสินค้าของกันและกัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 เม.ย. 68)
Tags: จีน, ภาษีศุลกากร, สงครามการค้า, สหรัฐ