จีนเพิ่มการใช้จ่ายภาครัฐในไตรมาสแรกของปี 2568 อย่างรวดเร็วที่สุดเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกนับตั้งแต่ปี 2565 เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจที่กำลังเผชิญแรงกดดันจากความต้องการในต่างประเทศที่ลดลง ท่ามกลางสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงกับสหรัฐฯ
จีนจำเป็นต้องเร่งใช้งบประมาณภาครัฐเพื่อป้องกันความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ เนื่องจากการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ อาจทำให้การส่งออกของจีนหดตัว ขณะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซามาหลายปีและภาวะเงินฝืดยังคงกดดันความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจ
แม้เศรษฐกิจของจีนยังคงเติบโตในช่วงเดือนม.ค.-มี.ค. แต่ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากคาดว่า เศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวลงอย่างมากในไตรมาส 2 หลังจากกระแสการเร่งส่งออกและมาตรการกระตุ้นการบริโภคสิ้นสุดลง
ข้อมูลของกระทรวงการคลังจีนเมื่อวันศุกร์ (18 เม.ย.) บ่งชี้ว่า การใช้จ่ายรวมจากงบประมาณสาธารณะและบัญชีกองทุนของรัฐบาลซึ่งเป็นงบการคลังหลักสองประเภทของจีนอยู่ที่ 9.26 ล้านล้านหยวน (1.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วงสามเดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 5.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นสูงที่สุดในรอบ 3 ปีสำหรับไตรมาสแรก
ข้อมูลนี้ยังสะท้อนว่าจีนได้ใช้จ่ายไปแล้วเกือบ 22% ของงบประมาณทั้งปีในช่วงไตรมาสแรก มากกว่าปีที่แล้วที่ใช้ไป 21.6% ในช่วงเวลาเดียวกัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 เม.ย. 68)
Tags: จีน, นโยบายภาษี, ภาษีนำเข้า, สงครามการค้า, สหรัฐ, เศรษฐกิจจีน