ธุรกิจเล็กของสหรัฐฯ รวมตัวฟ้องรัฐบาลทรัมป์ ชี้ไม่มีอำนาจสั่งเก็บภาษีทั่วโลก

บรรดาธุรกิจขนาดเล็กของสหรัฐฯ รวมตัวกันฟ้องร้องรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ทำการเรียกเก็บภาษีศุลกากรฝ่ายเดียวซึ่งประกาศใช้เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยเอกสารคำร้องที่ยื่นต่อศาลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ ระบุว่า คณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่มีอำนาจในการเรียกเก็บภาษีศุลกากรทั่วโลกโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การฟ้องร้องดังกล่าวเป็นการยื่นฟ้องร่วมกันระหว่างศูนย์ Liberty Justice Center องค์กรที่ปรึกษาทางกฎหมาย และ อิลยา โซมิน ทนายความร่วมและศาสตราจารย์ด้านกฎหมายประจำมหาวิทยาลัยจอร์จ เมสันในฐานะตัวแทนของธุรกิจ 5 แห่งจากรัฐนิวยอร์ก เพนซิลเวเนีย ยูทาห์ เวอร์จิเนีย และเวอร์มอนต์

Liberty Justice Center ระบุในเอกสารที่เผยแพร่ออกมาว่า “การขาดดุลการค้ามีมานานหลายสิบปีแล้ว และไม่ก่อให้เกิดภาวะฉุกเฉินระดับชาติหรือภัยคุกคามต่อความมั่นคง นอกจากนี้ คณะบริหาร (ของปธน.ทรัมป์) ยังเรียกเก็บภาษีแม้กระทั่งกับประเทศที่สหรัฐฯ ไม่ได้ขาดดุลด้วย ซึ่งยิ่งเป็นการบ่อนทำลายความชอบธรรมของฝ่ายบริหาร”

Liberty Justice Center เปิดเผยว่า ทรัมป์ได้อ้างกฎหมายอำนาจฉุกเฉินทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ หรือ IEEPA (International Economic Emergency Powers Act) ในการเรียกเก็บภาษีศุลกากรในวันแห่งการปลดปล่อย (Liberation Day) ตลอดจนภาษีศุลกากรที่เรียกเก็บจากเม็กซิโก แคนาดา และจีน

อย่างไรก็ตาม IEEPA ไม่ได้ให้สิทธิปธน.สหรัฐฯ ในการกำหนดภาษีศุลกากรเป็นวงกว้าง และไม่ได้อนุญาตให้เรียกเก็บภาษีศุลกากรใด ๆ เลยด้วยซ้ำ

ทั้งนี้ ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมาในการเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ (reciprocal tariff) ท่ามกลางการคัดค้านอย่างกว้างขวาง โดยกำหนดภาษีศุลกากรพื้นฐานขั้นต่ำในอัตรา 10% และกำหนดอัตราภาษีศุลกากรที่สูงขึ้นกับคู่ค้าบางราย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 เม.ย. 68)

Tags: , ,