สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (15 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของมาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ขณะเดียวกันนักลงทุนพยายามประเมินผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่จะมีต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน
- ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 20 เซนต์ หรือ 0.33% ปิดที่ 61.33 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 21 เซนต์ หรือ 0.32% ปิดที่ 64.67 ดอลลาร์/บาร์เรล
นโยบายการค้าที่ไม่แน่นอนของสหรัฐฯ ส่งผลให้ตลาดน้ำมันโลกเผชิญกับความไม่แน่นอน และทำให้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันปิโตรเลียม (โอเปก) ปรับลดคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกในปี 2568 ลง 150,000 บาร์เรลต่อวัน สู่ระดับ 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากเดิมที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.45 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ทางด้านสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) คาดการณ์ว่าความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกในปีนี้จะขยายตัวในอัตราที่ช้าที่สุดในรอบ 5 ปี เนื่องจากกังวลว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจจะได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับมาตรการภาษีศุลกากรยังทำให้ธนาคารหลายแห่ง รวมถึงยูบีเอส (UBS), บีเอ็นพี พาริบาส์ (BNP Paribas) และเอชเอสบีซี (HSBC) พากันปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบ
นักลงทุนประเมินผลกระทบของการทำสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ โดยล่าสุดมีรายงานว่ารัฐบาลจีนได้สั่งการให้สายการบินต่าง ๆ ในประเทศ งดรับมอบเครื่องบินโบอิ้งล็อตใหม่ เพื่อตอบโต้การตัดสินใจของสหรัฐฯ ที่ประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในอัตรา 145%
สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 11 เม.ย. ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบอย่างเป็นทางการของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) ในวันนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 เม.ย. 68)
Tags: WTI, น้ำมัน WTI, ราคาน้ำมัน