น้ำมัน WTI ปิดบวก 26 เซนต์ ขานรับสต็อกเชื้อเพลิงลดลง

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (19 มี.ค.) หลังสหรัฐฯ เปิดเผยสต็อกน้ำมันกลั่นและน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลง นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง

  • ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 26 เซนต์ หรือ 0.39% ปิดที่ 67.16 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 22 เซนต์ หรือ 0.31% ปิดที่ 70.78 ดอลลาร์/บาร์เรล

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 512,000 บาร์เรล

อย่างไรก็ดี สต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 2.8 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 300,000 บาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 530,000 บาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 2.2 ล้านบาร์เรล

สถานการณ์ในตะวันออกกลางยังคงตึงเครียด โดยกองทัพอิสราเอลได้กลับมาโจมตีฉนวนกาซาอีกครั้งเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 400 ราย บาดเจ็บหลายร้อยราย และถือเป็นการยุติข้อตกลงหยุดยิงระยะเวลา 2 เดือนกับกลุ่มฮามาส

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าเดินหน้าโจมตีกลุ่มฮูตีจนกว่าจะยอมยุติการโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดง และเตือนว่าอิหร่านจะต้องรับผิดชอบต่อการโจมตีใด ๆ ในอนาคตที่เกิดจากกลุ่มฮูตี

ทางด้านธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 4.25% – 4.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้ตามคาด ส่วนในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวม 0.50% ในปีนี้ ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากรายงาน Dot Plot เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว

นักลงทุนยังคงจับตาการเจรจาหยุดยิงระหว่างยูเครนและรัสเซีย หลังจากปธน.ทรัมป์และปธน.ปูตินเห็นพ้องกันที่จะให้รัสเซียและยูเครนหยุดการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของกันและกันเป็นเวลา 30 วัน ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้เพิ่มโอกาสที่จะมีการทำข้อตกลงสันติภาพและจะทำให้น้ำมันของรัสเซียกลับเข้าสู่ตลาดโลกอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม โอกาสของการหยุดยิงอย่างเต็มรูปแบบยังคงไม่แน่นอน หลังจากที่รัสเซียและยูเครนต่างก็กล่าวโทษกันไปมาว่าได้กระทำการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงครั้งใหม่ จากกรณีการโจมตีทางอากาศที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้และสร้างความเสียหายแก่โครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ปธน.ทรัมป์และปธน.ปูตินเห็นพ้องที่จะให้มีการหยุดยิง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 มี.ค. 68)

Tags: , ,