ผลสำรวจทังกัน (Tankan) ของสำนักข่าวรอยเตอร์เปิดเผยในวันนี้ (19 มี.ค.) ว่า ความเชื่อมั่นภาคการผลิตญี่ปุ่นเดือนมี.ค.ทรุดเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน หลังนักธุรกิจวิตกกังวลต่อนโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ และภาวะเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว
ผลสำรวจที่จัดทำคู่ขนานกับการสำรวจธุรกิจรายไตรมาสของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ผลิตเดือนมี.ค.อยู่ที่ -1 ลดลงจาก +3 ในเดือนก.พ. ถือเป็นการกลับมาติดลบครั้งแรกนับจากเดือนธ.ค.ที่ก็แตะระดับ -1 เช่นกัน
ตัวเลขติดลบสะท้อนว่า ผู้ประกอบการที่มองแนวโน้มธุรกิจในเชิงลบมีสัดส่วนมากกว่าผู้ที่มองในแง่บวก
“แม้เราเห็นว่าอุปสงค์ระยะยาวยังแข็งแกร่ง แต่แนวโน้มคำสั่งซื้อระยะสั้นอาจผันผวน” ผู้จัดการบริษัทผลิตโลหะนอกกลุ่มเหล็กรายหนึ่งระบุในแบบสำรวจ พร้อมชี้ถึงผลกระทบจากความไม่แน่นอนด้านนโยบายภาษีนำเข้า
ขณะเดียวกัน ผู้ผลิตรายอื่นระบุว่า เศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวส่งผลให้คำสั่งซื้อลดลง
“คำสั่งซื้อที่เคยมาจากจีนเป็นหลัก ขณะนี้กำลังถูกทดแทนด้วยการผลิตในญี่ปุ่นและประเทศอื่น ๆ” ผู้จัดการบริษัทเคมีภัณฑ์รายหนึ่งระบุ
“แม้คำสั่งซื้อจากแหล่งผลิตใหม่จะเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่มากพอที่จะกระตุ้นยอดขายอย่างมีนัยสำคัญ” ผู้จัดการรายเดียวกันกล่าวเสริม
การสำรวจดังกล่าวจัดทำระหว่างวันที่ 5-14 มี.ค. โดยนิกเกอิรีเสิร์ช (Nikkei Research) ในนามของรอยเตอร์ โดยมีบริษัทขนาดใหญ่ที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน 225 แห่งร่วมตอบแบบสำรวจแบบไม่ระบุชื่อ
ด้านดัชนีความเชื่อมั่นภาคบริการปรับลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 มาอยู่ที่ +25 ในเดือนมี.ค. จาก +30 ในเดือนก.พ.
“เราไม่สามารถผลักภาระต้นทุนที่พุ่งสูงขึ้น ทั้งด้านแรงงาน การดำเนินงาน และการขนส่งไปยังลูกค้าได้ทั้งหมด อีกทั้งปริมาณการขนส่งยังลดลงเพราะราคาที่ปรับตัวสูงขึ้น” ผู้จัดการบริษัทขนส่งรายหนึ่งให้ความเห็น
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการมองภาพรวม 3 เดือนข้างหน้าในเชิงบวกมากขึ้น โดยคาดว่าดัชนีความเชื่อมั่นภาคการผลิตจะฟื้นขึ้นมาอยู่ที่ +4 ในเดือนมิ.ย. ขณะที่ดัชนีนอกภาคการผลิตจะอยู่ที่ +28
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 มี.ค. 68)
Tags: ความเชื่อมั่นภาคการผลิต, ญี่ปุ่น