นางสาวเดือนพรรณ ลีลาวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนีย แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บมจ.เอ็มเอ็มเอ็ม แคปปิตอล [MMM] เปิดเผยว่า หลังจากที่ MMM ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (แบบไฟลิ่ง) และแบบคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไป (PO) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต.
ล่าสุด สำนักงาน ก.ล.ต.นับหนึ่งแบบไฟลิ่ง MMM เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2568 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเพื่อเสนอขายหุ้น PO จำนวนไม่เกิน 64,200,000 หุ้น หรือคิดเป็น 21.40% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาท เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) หมวดอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง
สำหรับหุ้นที่เสนอขายในครั้งนี้ ประกอบด้วย
1) หุ้นสามัญเพิ่มทุนไม่เกิน 52,200,000 หุ้น คิดเป็นไม่เกิน 17.40%
2) หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย บริษัท ณัชชา โฮลดิ้ง จำกัด ไม่เกิน 12,000,000 หุ้น คิดเป็นไม่เกิน 4.00% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้
ปัจจุบัน MMM ดำเนินธุรกิจเป็นตัวแทนการขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยทุกประเภทให้กับเจ้าของโครงการ ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม รวมถึงการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดและการขายผ่านเครือข่ายนายหน้าอิสระ นอกจากนี้บริษัทฯทำธุรกิจซื้อขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย ซึ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่บริษัทฯ เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ โดยการซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่มีสภาพดีนำมาปรับปรุงเพื่อจำหน่าย ธุรกิจของ MMM สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท
1. ที่ปรึกษางานขายโครงการ (BU1) โดยเป็นตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์แต่เพียงผู้เดียว ให้กับเจ้าของโครงการ เพื่อให้บริการแนะนำติดต่อผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัย ตลอดจนประสานงานเพื่อให้เกิดการโอนกรรมสิทธิ์ในอสังหาฯ ระหว่างผู้ซื้อและเจ้าของโครงการจนกว่าแล้วเสร็จ
2. การบริหารงานขายโครงการ (BU2) เป็นตัวแทนขายและรับประกันการขายแต่เพียงผู้เดียว เพื่อให้บริการ แนะนำ ติดต่อผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัย ตลอดจนประสานงานเพื่อให้เกิดการโอนกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ระหว่างผู้ซื้อและเจ้าของโครงการจนกว่าแล้วเสร็จ
นอกจากนี้ MMM ให้บริการบริหารงานขายแบบวางหลักประกันการซื้อ (Hybrid) ซึ่งเป็นการรวมรูปแบบการให้บริการที่ปรึกษางานขายโครงการ (BU1) ในช่วงแรก และสิทธิในการเลือกเป็นการบริหารงานขายโครงการแบบรับประกันการขาย (BU2) ในช่วงที่สอง
3. การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ (BU3) เป็นการซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่มีสภาพดีนำมาปรับปรุงเพื่อจำหน่าย
“MMM มีศักยภาพความโดดเด่นด้านความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการวางแผนการตลาดที่สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้ครบทุกมิติ ส่งผลให้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 บริษัทฯ มีโครงการอสังหาฯ ภายใต้สัญญาให้บริการและรอการขายสำหรับ BU1 BU2 และ BU3 รวมจำนวน 25 โครงการ 848 ยูนิต ซึ่งกระจายในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ นนทบุรี ชลบุรี ระยอง และจังหวัดอื่นๆ ครอบคลุมทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม”
นางสาวณิชา โรจน์วัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MMM เปิดเผยว่า MMM ถือว่าเป็นบริษัทแรกที่ย้ายจากตลาดหลักทรัพย์ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์ (LiVEx) เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ดังนั้น การเข้าระดมทุนในครั้งนี้ ถือเป็นอีกก้าวที่สำคัญของบริษัทฯ ที่จะเพิ่มศักยภาพการแข่งขันและสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว รวมถึงยังเป็นการช่วยเพิ่มโอกาสในการดำเนินธุรกิจสู่การต่อยอดการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต สอดรับกับแนวคิดภายใต้การเป็น “เพื่อนคู่คิด นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์”
สำหรับเม็ดเงินจากการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทฯ นำไปขยายธุรกิจ โดยใช้ในการวางเป็นเงินประกันสัญญาในธุรกิจการให้บริการที่ปรึกษางานขายโครงการ (BU1) และสัญญาการให้บริการบริหารงานขายโครงการ (BU2) รวมทั้งสัญญาการให้บริการบริหารงานขายแบบวางหลักประกันการซื้อ (Hybrid) อีกทั้งยังใช้เพื่อการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในธุรกิจการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ (BU3) และส่วนที่เหลือเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการรองรับการขยายธุรกิจ เพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำในด้านการเป็นที่ปรึกษาด้านการขายและการตลาดเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ตามวิสัยทัศน์ที่วางไว้ ควบคู่กับการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น ภายใต้นโยบายการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯ ภายหลังการหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และการจัดสรรเงินทุนสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของบริษัทฯ
อย่างไรก็ตาม จากความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจ สะท้อนถึงผลการดำเนินงานในปี 2565 – 2567 โดยบริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการเท่ากับ 168.08 ล้านบาท 255.66 ล้านบาท และ 357.88 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่กำไรสุทธิ และอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 35.09 ล้านบาท 47.74 ล้านบาท และ 80.76 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 20.62% 18.49% และ 22.39% ตามลำดับ
จากการเติบโตดังกล่าว บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายที่จะขยายธุรกิจให้เติบโตและสามารถสร้างผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ผ่านการเพิ่มเครือข่ายนายหน้าอิสระเพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพขยายฐานการเข้าถึงผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยเพื่อเพิ่มยอดขาย รวมถึงการรักษามาตรฐานและคุณภาพในการให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าปัจจุบันพร้อมกับการขยายการให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าใหม่ เพื่อการเติบโตของรายได้ในอนาคต
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 มี.ค. 68)
Tags: MMM, PO, หุ้นสามัญเพิ่มทุน, หุ้นไทย, เอ็มเอ็มเอ็ม แคปปิตอล