ข่าว
รัฐบาลทรัมป์เตรียมพิจารณายุบแผนกป้องกัน HIV หลังสั่งระงับจ่ายยารักษาในต่างประเทศ
มี.ค.
กระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ (HHS) ของสหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันอังคาร (18 มี.ค.) ว่า กำลังทบทวนบทบาทของแผนกป้องกันเชื้อไวรัสเอชไอวี (HIV) ของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) เพื่อพิจารณาว่ามีความซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่น ๆ หรือไม่ แต่ยังไม่มีการตัดสินใจขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับอนาคตของแผนกนี้
แถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากวอลล์สตรีทเจอร์นัลและเอ็นบีซีรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า แผนกนี้อาจถูกยุบ
แผนกป้องกันเอชไอวีของ CDC ซึ่งมีงบประมาณ 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มีหน้าที่ติดตามการติดเชื้อทั่วสหรัฐฯ และส่งเสริมการตรวจหาเชื้อ รวมถึงการใช้ยาป้องกันเอชไอวี หรือ PrEP
คาร์ล ชมิด ผู้อำนวยการสถาบันนโยบายเอชไอวี+โรคตับอักเสบ (HIV+Hepatitis Policy Institute) ในกรุงวอชิงตัน เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวของรัฐบาลว่าแผนกดังกล่าวอาจถูกปิดตัวลง และจะมีการตัดสินใจเรื่องงบประมาณสำหรับการป้องกันเอชไอวีของ CDC ภายในสัปดาห์นี้
HHS ซึ่งกำกับดูแล CDC ระบุว่า กำลังพิจารณาความซ้ำซ้อนของแผนกต่าง ๆ ภายใต้นโยบายปฏิรูปรัฐบาลของทรัมป์ และยังไม่มีการตัดสินใจเกี่ยวกับแผนกป้องกันเอชไอวีของ CDC
“หากมีการตัดสินใจในเรื่องนี้ งานด้านการป้องกันเอชไอวีจะถูกโอนไปยังหน่วยงานอื่นภายใน HHS” เจ้าหน้าที่ของกระทรวงกล่าว
ทั้งนี้ นโยบายด้านเอชไอวี/เอดส์ (HIV/AIDS) ของรัฐบาลทรัมป์กำลังเปลี่ยนแปลงในวงกว้าง โดยเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ทำเนียบขาวสั่งให้ระงับการแจกจ่ายยารักษาเอชไอวีผ่านคลินิกในต่างประเทศที่ได้รับทุนจากสหรัฐฯ ในทันที ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยหลายล้านคนทั่วโลก
กลุ่มนักเคลื่อนไหวด้านเอดส์ได้เริ่มรณรงค์กดดันรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อพยายามขัดขวางไม่ให้มีการยุบแผนกดังกล่าว
“สิ่งสำคัญคือเราต้องส่งสารให้ชัดเจนว่า การป้องกันเอชไอวีเป็นเรื่องสำคัญ งบประมาณของแผนกนี้กำลังช่วยชีวิตผู้คน” เจสซี มิลาน ซีอีโอของกลุ่ม AIDS United กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 มี.ค. 68)
Tags: CDC, HIV, ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค, สหรัฐ, เอชไอวี