สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่ทางการตุรกีว่า ประธานาธิบดีเรเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน ผู้นำตุรกี กำลังหาทางพบปะกับปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ที่ทำเนียบขาว ภายในสิ้นเดือนเม.ย.
แหล่งข่าวระบุว่า ปธน.เออร์โดกันมองว่า การส่งเสริมความเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ระหว่างทางการตุรกีและสหรัฐฯ มีความสำคัญต่อเสถียรภาพระดับภูมิภาค ในขณะที่ตุรกีต้องการจะกลายเป็นคนกลางที่ทรงอำนาจในประเด็นต่าง ๆ ตั้งแต่ยูเครนไปจนถึงซีเรีย โดยบทบาทของตุรกีในฐานะแกนหลักขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) มีความสำคัญยิ่งในช่วงเวลาที่สหรัฐฯ กำลังทบทวนความมุ่งมั่นที่มีต่อยุโรป
ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ-ตุรกี เกิดรอยร้าวขึ้นจากการที่ทางการตุรกีซื้อระบบป้องกันขีปนาวุธของรัสเซีย ขณะที่สหรัฐฯ สนับสนุนกองกำลังติดอาวุธชาวเคิร์ดในซีเรีย ซึ่งตุรกีมองว่าเป็นภัยคุกคามต่อประเทศชาติ รวมถึงข้อพิพาทอื่น ๆ
ล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เออร์โดกันได้โทรศัพท์คุยกับทรัมป์ โดยขอให้ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอุตสาหกรรมกลาโหมตุรกีที่ถูกบังคับใช้ในสมัยแรกของทรัมป์ อันเป็นผลพวงจากการซื้ออาวุธรัสเซีย พร้อมเรียกร้องให้ดึงตุรกีกลับเข้าร่วมโครงการพัฒนาเครื่องบินรบ F-35 และเร่งอนุมัติการขาย F-16 รุ่นใหม่ให้ตุรกี
การที่เออร์โดกันยื่นมือหาสหรัฐฯ ครั้งนี้ เกิดขึ้นในจังหวะที่เขากำลังพยายามกระชับความร่วมมือด้านการทหารและเศรษฐกิจกับสหภาพยุโรป โดยเสนอความช่วยเหลือด้านความมั่นคง ในช่วงที่ยุโรปกำลังมองหาทางลดการพึ่งพาสหรัฐฯ หนึ่งในความเป็นไปได้คือการส่งทหารตุรกีเข้าร่วมภารกิจรักษาสันติภาพในยูเครน ขณะที่การเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียกับยูเครนยังคงดำเนินอยู่
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 มี.ค. 68)
Tags: ตุรกี, สหรัฐ, เรเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน, โดนัลด์ ทรัมป์