CONSENSUS: PLANB รับผลกระทบจำกัดปม ส.บอลไทยปรับสัญญา ปีนี้มีลุ้นกำไรทำนิวไฮต่อเนื่อง

โบรกเชียร์ “ซื้อ” หุ้น บมจ.แพลน บี มีเดีย [PLANB] แม้เกิดประเด็นในสมาคมฟุตบอลฯ ที่อาจนำไปสู่การเจรจาขอปรับสัญญาสิทธิประโยชน์ การบริหารสื่อโฆษณา ทำการตลาด หา sponsorship ฟุตบอลไทยลีก เพื่อเพิ่มค่าสิทธิประโยชน์ให้มากขึ้น แต่ยังคงระยะเวลาสัญญาไปถึงปี 71 มองว่าผลกระทบจำกัดต่อกำไรแค่ 1-2% ส่วนที่มาของการได้รับสิทธิประโยชน์ บริษัทได้ชี้แจงไปแล้ว

ขณะที่ตัวธุรกิจมีการเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งต้นปีได้ลงทุนเข้าซื้อ Hello Bangkok และดีลเข้าบริหารสิทธิของ VGI คาดจะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 2/68 โดยรายได้สื่อโฆษณานอกบ้านปีนี้เพิ่มขึ้นจากการเพิ่ม capacity ประมาณ 10% จากการปรับปรุงป้าย billboard ขนาดใหญ่ อัตราการใช้สื่ออยู่ในระดับ 75-76%

ราคา PLANB ปิดบวก 0.90% มาที่ 5.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท

โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)

  • ทิสโก้ ซื้อ 10.70
  • หยวนต้า ซื้อ 10.00
  • กสิกรไทย Outperform 9.00
  • ยูโอบี เคย์เฮียน ซื้อ 9.00
  • บัวหลวง ซื้อ 8.80
  • ดาโอ ซื้อ 8.80
  • ทรีนีตี้ ซื้อ 8.20

PLANB ชี้แจงประเด็นสัญญาสิทธิประโยชน์การบริหารสื่อและทำการตลาดของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ว่าบริษัทยืนยันได้สิทธิถูกต้องตามกฎหมายจากการประมูลในช่วงนายกสมาคมฯ คนเดิม โดยได้รับการต่อสัญญา 8 ปีจนถึงปี 71 ซึ่งนายกสมาคมฯปัจจุบันยังคงให้ต่อสัญญา แต่ขอเจรจาปรับสัญญาใหม่ให้สมาคมฯได้สิทธิประโยชน์มากขึ้นตั้งแต่ปีที่ผ่านมา

PLANB บริหารสื่อโฆษณา ทำการตลาด หา sponsorship ยกเว้นรายได้ตั๋วและการถ่ายทอดสดต่างประเทศ ซึ่งในส่วนที่ยกเว้นมีสัดส่วนรายได้เล็กน้อยหลักสิบล้านบาท

และมีการปรับสัญญาใหม่กลางปีที่แล้วตั้งแต่นายกสมาคมฯ คนใหม่เข้ามา จากการปรับ minimum guarantee รายได้ขั้นต่ำจาก 400 ล้านบาท เป็น 450 ล้านบาท และส่วนแบ่งรายได้จาก 20-25% เป็น 15-25% คิดตามขั้นบันได โดยปีที่ผ่านมาบริษัททำรายได้ 500-600 ล้านบาท และรับรู้ส่วนแบ่งรายได้สุทธิประมาณ 150 ล้านบาท และมี net margin single digit หลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว

นายนภนต์ ใจแสน ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า นายกสมาคมฟุตบอลฯ ได้เจรจากับ PLANB แล้วโดยขอเพิ่มเงินการันตีรายได้ (MG) และผลประโยชน์จะให้สมาคมฯมากขึ้น ทั้งนี้ การเจรจาที่ปรับเพิ่มเงินการันตีรายได้จากเดิม 400 ล้านบาท/ปี เป็น 450 ล้านบาท/ปี ซึ่งปกติ PLANB ทำรายได้ให้สมาคมฯปีละ 500-600 ล้านบาทอยู่แล้ว ดังนั้น การปรับขึ้นมาก็ไม่ได้ส่งผลกระทบ เพราะบริษัททำได้เกินกว่านั้น

ส่วนการปรับส่วนแบ่งรายได้ เดิม 20-25% หรือเฉลี่ย 22.5% แต่หากปรับขึ้นก็ประมาณ 15-25% ซึ่งจะปรับเป็นขั้นบันได โดยที่ผ่านมา PLANB ที่ทำรายได้เข้ามามากกว่าเกณฑ์ บริษัทก็ได้รับส่วนแบ่ง 20% กว่า

ดังนั้น จาก 2 ประเด็นดังกล่าวไม่น่าจะส่งผลกระทบมากนัก เพราะสิ่งที่บริษัททำได้เกินข้อตกลงอยู่แล้ว แต่มองกรณี Worst Case หาก PLANB ไม่ได้ทำ 2 ส่วนนี้กับสมาคมฯเลย หรือยกเลิกสัญญาไป จะกระทบกำไรเพียง 1-2%

“เพราะฉะนั้นถ้าทำต่อแล้วปรับเงื่อนไขก็ไม่ได้กระทบ หรือถ้าเลิกไปเลยก็กระทบแค่ 1-2% ทำให้ส่งผลค่อนข้างจำกัด”นายนภนต์ กล่าว

สำหรับราคาหุ้น PLANB ที่ปรับตัวลงมาแรงในวันที่ 12 มี.ค.68 เพราะกังวลเรื่องสัญญากับสมาคมฯ และอาจมีผลกระทบกับ ESG หรือไม่ รวมถึง PLANB ได้สัญญานี้มาด้วยความชอบธรรมหรือไม่ ทั้งนี้ PLANB ได้ร่วมเข้าประมูลพร้อมกับรายอื่นเป็นบริษัทระดับโลก 2 บริษัท ซึ่งสมาคมฯไม่ได้มอบสิทธิให้ จึงเชื่อว่าไม่มีประเด็นอะไรน่ากังวล

นายนภนต์ กล่าวว่า ธุรกิจ PLANB มีทิศทางดีขึ้นเรื่อยๆ โดยต้นปีมีการประกาศดีลเข้าซื้อ Hello Bangkok และดีลเข้าบริหารสิทธิของ VGI โดยปีนี้จะรับรู้รายได้ประมาณ 8 เดือน คาดว่ากำไรปีนี้จะทำนิวไฮต่อเนื่อง แต่ไตรมาส 1 เป็นโลวซีซั่น เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้า อาจเป็นปัจจัยกดดันระยะสั้น คาดว่าจะได้เห็นทิศทางดีขึ้นในไตรมาส 2/68

สำหรับปี 68 กำไรน่าจะทำนิวไฮได้ต่อเนื่อง คาดกำไรที่ 1,200 ล้านบาทสูงขึ้น 14% จากปี 67 ที่มีกำไร 1,050 ล้านบาท ส่วนปี 69 คาดว่ามีกำไร 1,400 ล้านบาท ยังทำนิวไฮต่อเนื่องเช่นกัน

บล.ดาโอ (ประเทศไทย) มีมุมมองเป็นกลางจากประเด็นดังกล่าว โดยมองว่าหากสิทธิประโยชน์ดังกล่าวถูกยกเลิกไป จะ

กระทบ PLANB จำกัด โดยจะกระทบกำไรปี 68 อยู่ที่ 2-3% ซึ่งสิทธิประโยชน์ของ PLANB จากสมาคมฟุตบอลฯ จะอยู่ในรูปแบบการหา sponsorship ให้สมาคม และจ่ายคืนให้สมาคม 80% และ PLANB ได้รับส่วนแบ่ง 20%

ทั้งนี้ PLANB ได้รับรายได้ส่วนแบ่งสิทธิประโยชน์จากสมาคมฟุตบอลอยู่ที่ 250-300 ล้านบาท/ปี โดยสัญญาการดูแลสิทธิประโยชน์ให้สมาคมฯ ฉบับปัจจุบันจะมีไปจนถึงปี 71

ด้านสิทธิถ่ายทอดสดในประเทศ เป็นส่วนที่ PLANB ไม่เคยได้ส่วนแบ่งหรืออยู่ในสิทธิสิทธิประโยชน์ของ PLANB อยู่แล้ว การคืนสิทธิให้ช่องอื่นๆ จึงไม่กระทบต่อ PLANB

เราคงประมาณการกำไรสุทธิปี 68 ที่ 1,146 ล้านบาท (+9% YoY) ทั้งนี้ เรายังไม่ได้รวมกำไรที่เพิ่มขึ้นจากดีล Hello LED และ VGI ในประมาณการ เบื้องต้นคงคำแนะนำ “ซื้อ” PLANB ที่ราคาเป้าหมาย 8.80 บาท อิง 2025E 33.0x

บล.ทิสโก้ คาดผลกระทบต่อ PLANB จากการปรับสัญญาค่อนข้างจำกัดประมาณ 1% ของกำไรสุทธิเท่านั้น

ขณะที่แนวโน้มกำไรสุทธิไตรมาส 1/68 คาดว่าจะเพิ่มขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ จากช่วง low season การใช้จ่ายสื่อโฆษณา ส่วนกำไรสุทธิปี 68-69 คาดว่าจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 11% (CAGR3Y) (ยังไม่รวมการลงทุนเข้าซื้อ Hello LED ที่จะเสร็จในไตรมาส 2/68) จากการคาดรายได้ธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านปี 68 มีการเพิ่ม media capacity ประมาณ 10% จากการปรับปรุงป้าย billboard ขนาดใหญ่ คาดอัตราการใช้สื่อ 75%-76% และคาดรายได้กลุ่มกิจกรรม engagement marketing เติบโตปีละ 7% (ไม่รวมรายได้จากกีฬาโอลิมปิกในปี 67) คาดอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 31.4-32.4% จากคาดรายได้ธุรกิจสื่อโฆษณาที่เพิ่มขึ้น และไม่มีรายได้กีฬาโอลิมปิกที่อัตรามาร์จิ้นต่ำกว่าสื่อนอกบ้าน และคาดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารกลับใกล้เคียงกับปี 2567 อยู่ที่ปีละ 13.6%

คงคำแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 10.7 บาท (อ้างอิงวิธี DCF, WACC 9%) ราคาหุ้นปัจจุบันมี PER25F ที่ 22X ค่อนข้างต่ำเทียบกับ PER เฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ของ PLANB ที่ 39X คาด Div.Yield 25F ที่ 2.2% สถานะการเงินแข็งแกร่งคาด Net D/E25F ที่ 0.1x ส่วนความเสี่ยงอยู่ที่เศรษฐกิจชะลอตัว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 มี.ค. 68)

Tags: , , , , ,