นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษากองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ปภ.ช.) เปิดเผยว่า ในการประชุมวันนี้ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA รายงานพบจุดความร้อนในประเทศ 6,713 จุด โดย 5 จังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุดคือ ตาก 1,004 จุด เชียงใหม่ 656 จุด ลำปาง 643 จุด น่าน 453 จุด และ พะเยา 448 จุด
ขณะที่จุดความร้อนในประเทศเพื่อนบ้าน มีการสะสมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ประเทศเมียนมา พบจุดความร้อน 55,839 จุด ทำให้จากนี้จนถึงวันที่ 23 มี.ค. 68 จะต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ฝุ่นละอองเป็นพิเศษ โดยเฉพาะจังหวัดภาคเหนือตอนบนที่มีแนวเขตติดกับชายแดน
ทั้งนี้ สอดคล้องกับข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษที่รายงานสภาพอากาศโดยรวมทั่วประเทศ อยู่ในเกณฑ์ปกติถึงดี ยกเว้นภาคเหนือ ทั้ง 17 จังหวัด ที่คุณภาพอากาศส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนอยู่ในระดับสีส้ม เฉลี่ยที่ 25.6-143.0 มคก./ลบ.ม.
“ในการประชุมวันนี้ เน้นย้ำเป็นพิเศษให้ทุกหน่วยงานในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือเฝ้าระวังสถานการณ์ฝุ่นละอองที่จะเพิ่มขึ้น ไปจนถึงวันที่ 23 มี.ค. นี้ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนที่มีพื้นที่ติดกับชายแดนของประเทศเพื่อนบ้าน” นายจิรายุ กล่าว
ขณะที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมรายงานการตรวจควบคุมโรงงานในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ เพื่อให้ปฏิบัติตามกฎหมายและลดต้นตอการเกิดฝุ่นควัน ตั้งแต่เดือนพ.ย. 67 จนถึงปัจจุบัน ได้มีการตรวจโรงงานไปแล้วจำนวน 759 โรง ปฏิบัติถูกต้องตามข้อกฎหมายจำนวน 752 โรง ดำเนินการไม่ถูกต้อง 7 โรง ซึ่งกรมโรงงานอุตสาหกรรมได้ออกคำสั่งให้ทำการปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้องก่อนกลับมาดำเนินกิจการต่อไป
นอกจากนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ตรวจสอบยานพาหนะที่ปล่อยมลพิษและควันดำระหว่างวันที่ 12-16 มี.ค. 68 ตรวจสอบยานพาหนะ 15,440 ครั้ง จับกุมดำเนินคดี 1,152 ครั้ง ตักเตือน 8,862 ครั้ง ขณะที่การลักลอบเผาป่า พืชไร่ และพื้นที่เพาะปลูกทางการเกษตร มีการออกตรวจ 862 ครั้ง จับกุมดำเนินคดี 10 คดี
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 มี.ค. 68)
Tags: จิรายุ ห่วงทรัพย์, ฝุ่น PM2.5, ฝุ่นพิษ, ฝุ่นละออง, มลพิษทางอากาศ