นักวิเคราะห์ฯ ระบุตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดแกว่งออกข้างรับปัจจัยหนุนต่อเนื่องจากการจัดตั้งกองทุน Thai ESGX ช่วยลดแรงขายจากกองทุน LTF ในระยะถัดไป ส่งผลให้เมื่อวานนี้ดัชนีพลิกกลับมาบวกแรง อย่างไรก็ตาม ปัจจัยต่างประเทศยังกดดันจากนโยบายด้านภาษีของสหรัฐที่ยังมีความไม่แน่นอน และเกิดความตึงเครียดจากการตอบโต้กัน โดยวานนี้สหรัฐประกาศเพิ่มการเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจากแคนาดาเป็น 50% ก่อนจะยกเลิกไป ให้กรอบแนวรับ 1,180 จุด และแนวต้าน 1,195-1,197 จุด
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.) เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดดัชนีแกว่งออกข้าง โดยเมื่อวานนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบการจัดตั้งกองทุน Thai ESGX ส่งผลให้เมื่อวานนี้ดัชนีปรับตัวขึ้นแรง โดยวันนี้คาดว่ายังพอหนุน Sentiment ได้บ้าง เพราะช่วยลดแรงขายจากกองทุน LTF ในระยะถัดไป
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยต่างประเทศยังค่อนไปทางลบ จากนโยบายด้านภาษีศุลกากรของสหรัฐที่ยังมีความไม่แน่นอน และมีความตึงเครียดจากการตอบโต้กันระหว่างประเทศผ่านนโยบายภาษี ซึ่งเมื่อคืนนี้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐประกาศเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจากแคนาดาเป็น 50% จากเดิม 25% โดยจะให้มีผลบังคับใช้ในช่วงเช้าของวันนี้ แต่ภายหลังเปลี่ยนกลับมาใช้มาตรการเดิม
ทั้งนี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทยยังเห็นแรงหนุนได้อยู่แต่ Sentiment ต่างประเทศถ่วงคงทำให้อัพไซด์ไม่ได้ไกลมาก พร้อมให้กรอบแนวรับ 1,180 จุด และแนวต้าน 1,195-1,197 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (11 มี.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 41,433.48 จุด ลดลง 478.23 จุด หรือ -1.14%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,572.07 จุด ลดลง 42.49 จุด หรือ -0.76% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,436.10 จุด ลดลง 32.23 จุด หรือ -0.18%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีฮั่งเส็งเปิดที่ระดับ 23,859.23 จุด เพิ่มขึ้น 77.09 จุด หรือ +0.32% ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,385.69 จุด เพิ่มขึ้น 5.86 จุด หรือ +0.17% และดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 36,763.10 จุด ลดลง 30.01 จุด หรือ -0.08%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (11 มี.ค.) 1,187.63 จุด เพิ่มขึ้น 10.19 จุด (+0.87%) มูลค่าการซื้อขาย 49,570.68 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (11 มี.ค.) 994.42 ล้านบาท
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.(11 มี.ค.) เพิ่มขึ้น 22 เซนต์ หรือ 0.33% ปิดที่ 66.25 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (11 มี.ค.) อยู่ที่ 4.44 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 33.72/74 แข็งค่าตามภูมิภาค ตลาดจับตา CPI สหรัฐคืนนี้
- ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดบวก 10 จุด เด้งรับคณะรัฐมนตรี อนุมัติ “Thai ESG Extra รับสิทธิลดหย่อนภาษีสูงสุด 500,000 บาท “พิชัย” มั่นใจแรงขาย LTF จะน้อยลง ด้าน ก.ล.ต. คาดจะมีเม็ดเงินถูกโยกมา 75% จาก 1.8 แสนล้านบาท ขณะที่สมาคม บลจ.ประเมินจะมีเม็ดเงินใหม่ถึง 3 หมื่นล้านบาท ในช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย. 68
- “คลัง” ลง ครม.สัปดาห์หน้าคลอด พ.ร.ก.เพิ่มอำนาจ ก.ล.ต.สอบสวนคดีอาญา ส่งอัยการสั่งฟ้อง หวังลดความเสียหาย เรียกความเชื่อมั่น ตลาดทุน ชี้ 3 มาตรการ “ฟื้นธรรมาภิบาล บจ.-กระตุ้นการใช้จ่ายระยะสั้น-หุ้นเทคฯเมกะเทรนด์” สร้างแรงจูงใจหุ้นไทย “คลัง” ระบุหุ้นไทยลงตามทิศทางโลก มั่นใจ Thai ESG Extra ช่วยดันหุ้นไทย
- รัฐบาลกางแผนดัน 12 โครงการใหม่ ปั๊ม GDP ประคองเศรษฐกิจไทยปี 2568 ตั้งเป้าหมาย ต้องโตเกิน 3% ครอบคลุมทุกด้าน ทั้งกระตุ้นบริโภค แจกเงินหมื่น เร่งรัดการลงทุน ขับเคลื่อนการจ่ายภาครัฐผ่านโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน รถไฟแลนด์บริดจ์ รวมทั้งเร่งรัดการส่งออกและท่องเที่ยว
- รัฐบาลจัดใหญ่เทศกาล “สงกรานต์” ทั่วประเทศ หวังดันติดท็อป 10 เทศกาลระดับโลก ตอกย้ำ “World Event Hub” ของไทย ตั้งเป้าดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยว 3-4 ล้านคน คาดเงินสะพัดทั่วหล้า 2.5 หมื่นล้านบาท พร้อมยกระดับท่องเที่ยวเป็นเรือธงขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 6 สายการบินเพิ่มไฟลต์ในประเทศ 7 วัน 2.5 หมื่นที่นั่ง พร้อมตั๋วลดราคา 30% หนุน “พัทยา-หาดใหญ่” คึกคัก บุ๊กกิ้งตั๋วล่วงหน้าพุ่ง คาดโลเกชั่นหลัก ทะลุ 100% ขณะที่ “เชียงใหม่” ยังเงียบยอดจองที่พักยังมาแค่ 30%
- บิ๊กอสังหาฯ ผนึกกำลังจี้รัฐบาล-แบงก์ชาติ เร่งคลอดยาแรงกระตุ้นกำลังซื้อ ลดโอน-จดจำนอง-แบงก์ชาติเร่งผ่อนคลาย LTV กู้วิกฤต ดึงกลุ่มกำลังซื้อสูง ซื้อบ้านหลังที่ 2 หลังที่ 3 กู้เต็ม 100%
- “แพทองธาร” ยืนยันประชาชนกลุ่มอายุ 20-59 ปี ได้เงินหมื่นดิจิทัลวอลเล็ตแน่นอน เพราะเป็นนโยบายรัฐบาล แต่ที่เลือกกลุ่ม 6-20 ปีก่อน เหตุเป็นเรื่องการใช้เทคโนโลยี ขอให้โหลดแอปฯ ทางรัฐไว้ได้เลย ส่วนการใช้จ่าย พลิกอีก ซื้อสินค้าได้ทุกอย่าง แต่จ่ายค่าน้ำ ไฟฟ้า ค่าเทอมไม่ได้
- รมว.แรงงาน กล่าวถึงความคืบหน้าการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศ ว่า วันที่ 12 มี.ค. จะมีการประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง ของคณะกรรมการไตรภาคี ซึ่งได้ให้นโยบายไปว่า ถึงเวลาที่จะต้องตอบผู้ใช้แรงงานแล้ว ซึ่งการประชุมจะเป็นการตรวจสอบข้อมูลต่างๆ หลังประชุมไปเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.67 ก่อนที่จะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท ในบางพื้นที่เมื่อวันที่ 1 ม.ค.68 ซึ่งจะส่งสรุปผลการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำไปเมื่อ 1ม.ค.68 ให้แรงงานทุกจังหวัดทั่วประเทศรับทราบ
*หุ้นเด่นวันนี้
- AAV (เคจีไอ) เป้าพื้นฐาน 3.8 บาท ประเมินการท่องเที่ยวยังเด่น + ปัญหาค่าตั๋วยังแพงต่อเนื่องอีกหลายปีจากปัญหาอุปทาน เราประเมินแนวโน้มการท่องเที่ยวไทยยังดีต่อเนื่อง ทำให้มีโอกาสเห็นการ Switching หรือ ปรับพอร์ตของนักลงทุนจาก AOT (ที่ยังมี Overhang ธุรกิจ Non-aero) มายังหุ้นสายการบินที่คาดกำไรไตรมาส 1/68 จะโตดีต่อเนื่อง (การท่องเที่ยวดี/ค่าตั๋วแพงแต่น้ำมันลง) ล่าสุดแม้รัฐบาลขอให้ลดค่าตั๋วช่วงสงกรานต์ แต่ต้องซื้อตั๋วล่วงหน้าเท่านั้น
- CPAXT (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 33.58 บาท กำไรสุทธิไตรมาส 4/67 อยู่ที่ 3,960 ลบ. (+21%YoY, +103%QoQ) ได้แรงหนุนตามฤดูกาล, สินค้ากลุ่มอาหารสด, การขายผ่าน Omnichannel, และมาตรการกระตุ้นการบริโภค คาดแรงหนุนจะต่อเนื่องในไตรมาส 1/68 จากตรุษจีนและแจกเงินหมื่นเฟส 2 รวมถึง Easy E-Receipt ด้าน CPAXT เองวางเป้าปี 68 SSSG +high single digit%, GPM +60bsp, สัดส่วน Omnichannel 22%, และขยายสาขา 50 สาขา ทั้งนี้ ปัจจุบัน ตลาดคาดกำไรปี68 และ 69 ของ CPAXT* ที่ 12,394 ลบ.( +17%YoY) และ 13,674 ลบ.(+10%YoY)
- BDMS (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 29.40 บาท มองเชิงบวกจากผู้บริหารตั้งเป้าการเติบโตรายได้ที่ 7-8% ใน H1/68 และตั้งเป้าอัตรากำไร EBITDA ที่ 24-25% ทั้งปี คาดรายได้คนไทยโต 5% และคนไข้ตปท.โตกว่า 10% โดยคนไทยโตจากทั้งจ่ายเงินเองและประกัน แต่จ่ายเองโตช้ากว่าจากภาวะเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกลุ่มรายได้กลางๆ ส่วนรายได้สูงไม่กระทบมาก รายได้ประกัน ม.ค.โต 6% และส่วนรายได้คนไข้ตปท.โตดีแบบกระจายหลายประเทศ กลุ่มตอ.กลางโต 24-26% ใน 2 เดือนแรกและกลุ่ม CLMV โต 15%ใน ก.พ.68 vs 7% ปี 67 คาดผลกระทบความกังวล co-payment มีจำกัดผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์โรคง่ายมีราว 1-2% ของรายได้ทั้งหมด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 มี.ค. 68)
Tags: SET, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นไทย, หุ้นไทย