โจนส์ แลง ลาซาลล์ (Jones Lang LaSalle – JLL) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์ ระบุว่า ความพยายามของซาอุดีอาระเบียในการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจให้เป็นระบบดิจิทัลและก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะทำให้กรุงริยาดผงาดขึ้นตลาดชั้นนำที่สามารถรองรับการเติบโตของศูนย์ข้อมูลในตะวันออกกลางในช่วง 3 ปีข้างหน้า
JLL เปิดเผยในบทวิเคราะห์ว่า กรุงริยาดซึ่งเป็นเมืองหลวงของซาอุดีอาระเบียมีแนวโน้มที่จะขยายขอบเขตศูนย์ข้อมูล ด้วยอัตราการเติบโตต่อปีที่ระดับ 37% จนถึงปี 2570 ซึ่งตัวเลขดังกล่าวคิดเป็นเกือบสองเท่าของการคาดการณ์สำหรับเมืองดูไบและกรุงอาบูดาบีของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้าน และสูงกว่าระดับ 15% ที่คาดการณ์ไว้สำหรับทั่วโลก
“เรากำลังเห็นการผลักดันอย่างจริงจังสู่การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและการเป็นมหาอำนาจด้าน AI” แดเนียล ธอร์ป หัวหน้าฝ่ายวิจัยศูนย์ข้อมูลของ JLL ในยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (EMEA) ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์ก และเสริมว่า “เมื่อนำสิ่งนี้เพิ่มเข้าไปในนโยบายของรัฐบาลที่เอื้ออำนวยต่อภาคธุรกิจ ตลาดศูนย์ข้อมูลจึงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง”
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ซาอุดีอาระเบียกำลังเร่งจัดตั้งโครงสร้างพื้นฐานด้านคลาวด์และศูนย์ข้อมูล เพื่อผลักดันให้ซาอุดีอาระเบียก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางด้าน AI เทคโนโลยี และนวัตกรรม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการสร้างความหลากหลายทางเศรษฐกิจ โดยความต้องการข้อมูลกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วพร้อมกับการวิวัฒนาการของอุตสาหกรรมเหล่านี้ และเกิดขึ้นในขณะที่บริษัทหลายร้อยแห่งพากันเปิดสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ในกรุงริยาด
JLL ระบุว่า บริษัทต่าง ๆ รวมถึง ไมโครซอฟท์ (Microsoft), ธุรกิจแผนกคลาวด์ของอเมซอนดอทคอม (Amazon.com) และอีควินิกซ์ อิงค์ (Equinix Inc) ได้ทำข้อตกลงว่าจะสร้างระบบรองรับศูนย์ข้อมูลในซาอุดีอาระเบีย ขณะที่สตาร์ตอัปจากสหรัฐฯ อย่าง กรอค อิงค์ (Groq Inc) ได้ร่วมมือกับบริษัทอารามโค (Aramco) บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ ในการสร้างศูนย์ AI โดยสิทธิประโยชน์ทางภาษี เขตเศรษฐกิจเสรี และความพยายามที่จะส่งเสริมศูนย์ข้อมูลได้ช่วยกระตุ้นการลงทุน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 มี.ค. 68)
Tags: AI, กรุงริยาด, ซาอุดีอาระเบีย, ปัญญาประดิษฐ์