“รักชนก” ปูดข้อมูลกองทุนประกันสังคม ซื้ออสังหาฯ ไม่โปร่งใส จี้นายกฯ-รมว.แรงงาน ตั้งกก.สอบ

สส.พรรคประชาชน จี้นายกรัฐมนตรี และ รมว.แรงงาน สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบความไม่โปร่งใส กรณีการลงทุนนอกตลาดหุ้นของกองทุนประกันสังคม โดยเฉพาะการซื้อตึกสำนักงานย่านพระราม 9 กว่า 7 พันล้านบาท ที่มองไม่เห็นการทำกำไร พร้อมตั้งข้อสังเกตส่วนต่าง 4 พันล้านบาท อาจนำไปใช้เป็นทุนในการซื้อเสียงของพรรคการเมืองหนึ่งในช่วงเลือกตั้งใหญ่ ปี 66

น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กรุงเทพฯ พรรคประชาชน ชวนตั้งข้อสังเกตถึงความไม่โปร่งใสของกองทุนประกันสังคม ในการนำเงินของกองทุนฯ ไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นการลงทุนนอกตลาดหุ้น โดยมองว่าเป็นการเล่นแร่แปรธาตุ ซื้อตึกมูลค่า 3 พันล้านบาท ด้วยราคา 7 พันล้านบาท แม้จะเป็นการดำเนินการตามกฎระเบียบที่กองทุนฯ จะสามารถทำได้ แต่ตั้งคำถามว่าเป็น “ความคุ้มค่าหรือไม่” กับการลงทุนในลักษณะนี้

นอกจากนั้น ยังมีข้อมูลว่าตึกย่านพระราม 9 แห่งนี้ เป็นตึกอาคารสำนักงานให้เช่านี้ ที่เคยเป็นตึกร้างมาก่อน และได้มีการรีโนเวทใหม่ในช่วงโควิด-19 จากนั้นเมื่อแล้วเสร็จ ก็เป็นความบังเอิญที่กองทุนประกันสังคม เข้ามาซื้อตึกนี้ในช่วงหลังโควิดราวปลายปี 65 ด้วยมูลค่า 7,000 ล้านบาท จากมูลค่าสินทรัพย์จริงเพียง 3,000 ล้านบาท ซึ่งในขณะนั้นมีผู้เช่าตึกเพียง 1% เท่านั้น โดยตามแผนการลงทุนที่จัดทำไว้สวยหรูนั้น มีการประเมินว่าในระยะเวลา 2 ปี จะมีผู้เช่าประมาณ 60% ของพื้นที่โดยรวมทั้งหมด แต่จากข้อมูลจริงเมื่อ 2 ปีผ่านไป กลับพบว่ามีผู้เช่าพื้นที่แค่เพียง 20-30% เท่านั้น

จึงฝากคำถามให้ช่วยกันหาคำตอบว่า เดิมตึกนี้ใครเป็นเจ้าของมือแรก และเปลี่ยนเจ้าของมาแล้วกี่มือ มีชื่อคนในพรรคการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ซึ่งเป็นที่ อดีต รมว.แรงงานสังกัดอยู่ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ตึกนี้มีการปรับปรุงในปี 65 และขายต่อให้กับกองทุนประกันสังคม เสมือนเป็นการรู้มาก่อนล่วงหน้าว่าปรับปรุงเพื่อเตรียมรอให้กองทุนประกันสังคมเข้ามาซื้อ ซึ่งทั้งหมดนี้ นำไปสู่ความไม่เชื่อมั่นในธรรมาภิบาลของกองทุนประกันสังคม

“ตึกนี้ถูกตั้งเป้าและประเมินไว้สวยหรู แต่ปัจจุบันต่ำกว่าเป้า จากแผนที่บอกว่า 2 ปี จะมีคนเช่า 60% แต่ตอนนี้เช่าจริงแค่ 20-30% เท่ากับไม่ตามคาดไว้ และหากคิดว่ามีคนเช่า 100% เต็ม ต้องใช้เวลา 30 ปีกว่าจะคืนทุน แต่กองทุนฯ อาจจะเจ๊งใน 25 ปี เท่ากับว่ากองทุนฯ เจ๊งไปแล้ว แต่ตึกนี้อาจยังไม่คืนทุน

ขอตั้งคำถามตัวโต ๆ ว่า กองทุนประกันสังคม ที่เซ็นให้ลงทุนนอกตลาดแบบนี้ น่าจะมีปัญหาธรรมาภิบาลในการตีความผลการศึกษาให้เข้าข้างว่าต้องซื้ออสังหาริมทรัพย์นี้ ทำผลประกอบการไว้สวยหรู ไม่นับว่าทำไมกองทุนฯ ตัดสินใจใช้เงินลงทุนซื้อตึกนี้แห่งเดียว แทนที่จะกระจายการลงทุนไปซื้อสินทรัพย์อื่น และมีคนเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการอยู่แล้ว หรือมีประสบการณ์ในการบริหารจัดการสินทรัพย์ แต่ทำไมกองทุนฯ มาลองทำอะไรที่มีความเสี่ยง และทำไมทุ่มเงิน 7 พันล้านบาท มาลงทุนในตึกที่มีอัตราการเริ่มต้นให้เช่าแค่ 1% เท่านั้น

น.ส. รักชนก กล่าวว่า การออกมาเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้ เพราะต้องการให้นายกรัฐมนตรี ควรออกมา take action อย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น การตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง หรืออย่างน้อย รมว.แรงงานในปัจจุบัน ซึ่งต้องยอมรับว่าอาจจะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องการลงทุนในอดีตของกองทุนประกันสังคม แต่อย่างน้อย เมื่อสังคมมีการวิพากวิจารณ์ตั้งคำถามถึงความไม่โปร่งใสในการบริหารกองทุนฯ เช่นนี้แล้ว ก็ควรออกมาทำอะไรบ้าง

“การที่เราออกมาเปิดเรื่องนี้ เพราะไม่อยากให้เงียบ อยากให้นำไปสู่การทำอะไรจริงๆ เพื่อผู้ประกันตน ไม่ใช่หายวาบเหมือนจุดพลุ กองทุนฯ ไม่ใช่เหมือนบุฟเฟ่ท์ที่ใครก็เข้ามากิน ขอตั้งข้อสังเกตว่า การลงทุนซื้อตึก 7 พันลบ. และมีส่วนต่าง 4 พันลบ.นี้ ใครได้กำไร กองทุนฯ ไม่ได้แน่นอน เชื่อว่ามีคนกำไรแล้ว และปีที่จะทำเรื่องซื้อตึก ก็ใกล้เข้าสู่ช่วงเลือกตั้งพอดี ดังนั้น อาจจะมีพรรคใดมาหากินเอาส่วนตางนี้ไปใช้เป็นทุนในการเลือกตั้ง หรือซื้อเสียง” น.ส.รักชนก ระบุ

น.ส.รักชนก ยังกล่าวถึงการประชุมบอร์ดประกันสังคม ในวันพรุ่งนี้ (11 มี.ค.) ด้วยว่า ที่ประชุมจะมีวาระการพิจารณาที่สำคัญ คือ เรื่องการลงทุนของกองทุนประกันสังคม และการพิจารณาสูตรคำนวณใหม่ของเงินบำนาญผู้ประกันตน มาตรา 39 เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรมมากขึ้น ซึ่งทางพรรคฯ ได้ทราบสัญญาณว่าอาจจะถูกเลื่อนการพิจารณาออกไปอีก ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นแล้ว จะทำให้ไม่สามารถใช้สูตรคำนวณใหม่ได้ทันภายในปีนี้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 มี.ค. 68)

Tags: , ,