CryptoShot: กำแพงภาษี Trump Vs จัดตั้ง Crypto Reserve

ราคาบิทคอยน์พุ่งทะยาน และก็ร่วงลงแรงยิ่งกว่ารถไฟเหาะหลังจาก Donald Trump ประกาศรายชื่อเหรียญ Cryptocurrency ที่จะถูกจัดเก็บเป็นส่วนหนึ่งใน Crypto Reserve ของสหรัฐ ซึ่งไม่ได้มีแต่เพียง Bitcoin เท่านั้น แต่ยังมี Ethereum, Solana, Cardano และ Ripple ทำให้ราคาเหรียญเขียวยกแผง แต่เพียงแค่ข้ามคืนด้วยนโยบายของกำแพงภาษี ก็ทำให้ราคา Crypto ก็เหมือนร่วงตกสวรรค์อีกครั้ง!!

หัวจะปวด!! ทรัมป์ประกาศตั้งกองทุน Crypto Reserve ดันตลาดพุ่งทะยาน ก่อนร่วงหนักวันถัดมาด้วยนโยบายกำแพงภาษี

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาราคา Bitcoin สวิงมาก บางคนอาจเห็นเป็นโอกาสซื้อของถูก แต่สำหรับคนที่ยังไม่คุ้นชินกับ Bitcoin รับรองว่ามีตกใจแน่นอน ซึ่งการที่ราคาปรับตัวขึ้น สาเหตุหนึ่งต้องยอมรับว่าเกิดจากการประกาศจัดตั้งกองทุน Crypto Reserve ของสหรัฐจาก Donald Trump !!

ย้ำกันอีกครั้ง Crypto Reserve ไม่ใช่ Bitcoin Reserve เพราะจะมีเหรียญคริปโทฯ อื่น ๆ รวมเข้าไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นทั้ง Ethereum, XRP, Solana, Cardano มากันหมดยกแผง!!

นโยบาย Crypto Reserve ของ Trump ก็ยังดำเนินควบคู่ไปกับการประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศคู่ค้าสำคัญด้วย แน่นอนว่าประเทศมหาอำนาจอย่างจีนไม่อยู่เฉยแน่ มีการประกาศจะตอบโต้การขึ้นภาษีของ Donald Trump เช่นกัน ทำเอาราคา Bitcoin ร่วงไปอีก จากที่ทำราคาพุ่งไปที่ 94,500 ดอลลาร์ ก็ร่วงลงแรงมาแตะ 78,300 ดอลลาร์ ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

คนที่ถือ Bitcoin อยู่เป็นยังไงกันบ้าง เช้านี้แอบเช็คราคา Bitcoin เหมือนจะค่อย ๆ ฟื้นตัว อยู่ที่ประมาณ 90,000 ดอลลาร์แล้ว คนที่ถือยังถืออยู่รึเปล่า??

อิสระทางการเงิน!! Hacker ฟอกเงิน 50,000 ล้านที่แฮ็กจาก bybit เรียบร้อยแล้ว!!

จำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ bybit ได้หรือไม่? เหตุการณ์ที่ Hacker ได้ทำการแฮ็กเอา Ethereum ไปกว่า 499,000 ETH คิดเป็นมูลค่ากว่า 50,000 ล้านบาท และเงินจำนวนนี้ก็ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย ตามรายงานของ EmberCN เรียกว่าเทขายเกลี้ยง หาเส้นทางการเงินไม่เจอเลย

และด้วยเหตุการณ์นี้ ราคา ETH ก็ร่วงลงแรง คิดเป็นตัวเลขกว่า 23% แล้ว ตั้งแต่เหตุการณ์ก่อนถูกแฮ็ก ซึ่งน่าจะเกิดจากการเทขายด้วยเช่นกัน

ทางฝั่ง Bybit ก็ยังไม่หมดหวัง ยังคงตามหาเงินที่ถูกแฮ็กไป แถมมีการตั้งแคมเปญ lazarusbounty.com มอบรางวัลให้กับผู้ที่สามารถหาเส้นทางการเงินที่เชื่อมโยงกับแฮ็กเกอร์ด้วย โดย Bybit ได้เสนอเงินรางวัล 5% ของคริปโทฯ ที่กู้คืนได้ให้กับผู้ที่สามารถระบุและรายงานธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการแฮ็ก

เหมือนอย่างที่เราพูดกันบ่อย ๆ not your keys, not your coin

สิ้นเดือนนี้ผู้ใช้ชาวยุโรปเตรียมตัว Binance ยกเลิกการเทรด stablecoin แทบทุกสกุล เหลือแค่ USDC และ EURI

ในขณะที่ยุโรปกำลังเตรียมพร้อมกับการบังคับใช้กฎหมาย Market in Crypto Assets หรือ MiCA บรรดาแพลตฟอร์มเทรดต่าง ๆ ก็เตรียมตัวเช่นกัน และเพื่อให้เป็นไปตามกฎของ MiCa

Binance ก็ประกาศเตรียมตัว Delist เหรียญ Stablecoin สำหรับผู้ใช้งานในยุโรป เหลืออยู่เพียงแค่เหรียญ USDC ละ EURI ซึ่งผู้ใช้งานก็ต้องทำการแปลงเหรียญให้เป็น 2 Stablecoin ภายในวันที่ 31 มี.ค.นี้ถึงจะใช้งานได้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 มี.ค. 68)

Tags: , , , ,