สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ในวันอังคาร (4 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้า หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศเดินหน้าเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน เม็กซิโก และแคนาดา ซึ่งล่าสุดจีนและแคนาดาออกมาตรการตอบโต้แล้ว นอกจากนี้ ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ประกาศเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในเดือนเม.ย.ตามกำหนดเดิม
- ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 11 เซนต์ หรือ 0.16% ปิดที่ 68.26 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 58 เซนต์ หรือ 0.81% ปิดที่ 71.04 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนวิตกกังวลว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และบรรดาประเทศคู่ค้าจะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน ซึ่งจะสร้างแรงกดดันต่อราคาน้ำมัน
ปธน.ทรัมป์ประกาศเดินหน้าเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกในอัตรา 25% และเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มขึ้นเป็น 20% มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันอังคารที่ 4 มี.ค. นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยืนยันจะเริ่มใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) กับทุกประเทศที่เก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย.
ทางด้านจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาประกาศตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ในอัตรา 25% มีผลตั้งแต่วันอังคารที่ 4 มี.ค. ขณะที่รัฐบาลจีนประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ บางรายการเพิ่มอีก 10% – 15% โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค. ส่วนเม็กซิโกยืนยันว่าจะใช้มาตรการภาษีตอบโต้สหรัฐฯ แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดในขณะนี้
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการที่กลุ่มโอเปกพลัสประกาศเดินหน้าเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในเดือนเม.ย.ตามกำหนดเดิม โดยข้อมูลล่าสุดของสำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า โอเปกพลัสจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 138,000 บาร์เรล/วันตั้งแต่เดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มกำลังการผลิตครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2565
สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ลดลง 1.46 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 28 ก.พ. ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบอย่างเป็นทางการจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) ในวันนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 มี.ค. 68)
Tags: WTI, น้ำมัน WTI, ราคาน้ำมัน