นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น [BCP] เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานของบริษัทในปี 68 คาดว่า โรงกลั่นจะมีอัตราการกลั่นน้ำมันดิบ (crude run) เพิ่มขึ้น 8% เป็น 280 KBD เนื่องจากปีนี้ไม่ได้มีแผนปิดซ่อมบำรุงใหญ่ ซึ่งจะช่วยหนุนยอดขายทั้งปีให้เติบโตราว 5% ไปอยู่ที่ 1,210 ล้านลิตร ขณะที่ค่าการกลั่นปีนี้น่าจะดีขึ้นจากปีก่อน โดย 2 เดือนแรกของปีอยู่ที่เฉลี่ยราว 6 เหรียญ/บาร์เรล และบริษัทจะขยายกำลังการผลิตก๊าซและน้ำมันสำเร็จรูปเพิ่มอีกเป็น 5 หมื่นบาร์เรลต่อวัน มั่นใจผลการดำเนินปีนี้เติบโตมากกว่าปีที่แล้วแน่นอน
“ปีนี้ยังตั้งเป้าว่ายอดขายจะเติบโตเป็นดับเบิลดิจิท ส่วน EBITDA หากราคาน้ำมันทรงตัว ค่าการกลั่นทั้งปี 68 อยู่ที่ระดับเดียวกับ 2 เดือนแรกของปีนี้ คิดว่าปีนี้น่าจะดีกว่าปีที่แล้วแน่นอน”นายชัยวัฒน์ กล่าว
ในปี 68 บริษัทตั้งงบลงทุน 50,000 ล้านบาท กระจายลงทุนในทุก ๆ ธุรกิจ แต่ส่วนใหญ่ราว 4 หมื่นล้านบาทจะใช้ลงทุนในธุรกิจ Green Power และธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติอย่างละ 50% เน้นการทำ M&A ขณะที่ธุรกิจอื่นๆ เป็นการลงทุนโครงการในไปป์ไลน์ หรือการซ่อมบำรุงรักษา
ส่วนโครงการพลังงานลมในเวียดนาม 99 เมกะวัตต์ ใช้งบลงทุนทั้งหมด 4,500 ล้านบาท จะเป็นการลงทุนในปีนี้ราว 1,800 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งแรกของปี 68 ขณะที่ธุรกิจใหม่ได้มีการลงทุนเหมืองโพแทช กำลังการผลิต 4.34 แสนล้านตันต่อปี คาดว่ามูลค่าลงทุนทั้งหมด 4,500 ล้านบาท ซึ่งจะใช้ในปีนี้ราว 500 ล้านบาท จะเริ่มรับรู้รายได้จากเฟส 1 ช่วงไตรมาส 1/71 และรับรู้รายได้ครบทั้งโครงการในปี 72
ด้านธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน โครงการ VLCC ปัจจุบันอยู่ระหว่างการปรับปรุงท่าเรือของ BSRC ในโรงกลั่นศรีราชาเดิมให้ใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับเรือขนาดใหญ่ VLCC ได้ คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงครึ่งหลังปี 68 ซึ่งจะทำให้ต้นทุนค่าขนส่งถูกลง และสะท้อนมาที่ต้นทุนค่าการกลั่นให้มีกำไรดีขึ้น ขณะที่โรงงานหน่วยผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืนจากน้ำมันพืชใช้แล้ว (SAF) ที่ใช้เงินลงทุน 8.5 พันล้านบาท มีความคืบหน้า 93% คาดว่าจะเริ่ม COD ภายในไตรมาส 2/68
สำหรับกลุ่มธุรกิจการตลาดปี 68 ตั้งเป้าขยายสาขาปั๊มบางจากอีก 100 สาขา เพื่อให้มีจำนวนสาขาเพิ่มเป็นมากกว่า 2,200 สาขา โดยเลือกขยายในพื้นที่ใหม่ ๆ
นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจพลังงานสะอาด แม้ปี 67 จะขายโรงไฟฟ้าที่ญี่ปุ่นออกไปแล้ว แต่กำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดในมือยังอยู่ที่ราว 2,000 เมกะวัตต์ ขณะที่มีโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนา 872 เมกะวัตต์ คาดว่าปี 68 จะ COD อีก 389 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น โรงไฟฟ้าพลังลมในเวียดนาม 99 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าหลังลมในลาวที่ขายไฟไปให้เวียดนาม 290 เมกะวัตต์ จะ COD ในครึ่งหลังปี 68 จะทำให้ EBITDA ในกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดเพิ่มมากขึ้น
สำหรับธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ปี 68 ผลการดำเนินงานน่าจะเติบโต ทั้ง B100 ที่ราคายังอยู่ในระดับที่ดี และเอทานอล จากต้นทุนที่ค่อนข้างต่ำ ประกอบกับปีนี้จะผลิตเต็มกำลังการผลิตเอทานอลทั้ง 3 โรง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 มี.ค. 68)
Tags: BCP, ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช, บางจาก คอร์ปอเรชั่น, หุ้นไทย