น้ำมัน WTI ปิดลบ $1.39 หลังโอเปกพลัสตัดสินใจเพิ่มผลิตน้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (3 ม.ค.) หลังจากมีรายงานว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส จะเดินหน้าเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในเดือนเม.ย.ตามแผนที่วางไว้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลว่ามาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลก

  • ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 1.39 ดอลลาร์ หรือ 1.99% ปิดที่ 68.37 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 1.19 ดอลลาร์ หรือ 1.63% ปิดที่ 71.62 ดอลลาร์/บาร์เรล

กลุ่มโอเปกพลัส ซึ่งรวมถึงรัสเซียได้ประกาศในวันจันทร์ว่า ทางกลุ่มได้ตัดสินใจที่จะเดินหน้าเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจ 2.2 ล้านบาร์เรล/วันตั้งแต่เดือนเม.ย.ตามแผนที่วางไว้ โดยระบุว่าปัจจัยพื้นฐานและแนวโน้มของตลาดน้ำมันยังคงแข็งแกร่ง

ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบมาตรการภาษีศุลกากร หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ยืนยันว่า สหรัฐฯ จะดำเนินการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกในอัตรา 25% ตั้งแต่วันอังคารที่ 4 มี.ค.ตามกำหนด และจะเริ่มใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) กับทุกประเทศที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย.นี้เป็นต้นไป

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับปัจจัยลบจากข้อมูลภาคการผลิตที่อ่อนแอ โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต ปรับตัวลงสู่ระดับ 50.3 ในเดือนก.พ. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 50.6 จากระดับ 50.9 ในเดือนม.ค. โดยดัชนีภาคการผลิตได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลงของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าของสหรัฐฯ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 มี.ค. 68)

Tags: , ,