KBANK มองกรอบเงินบาทวีคหน้า 33.60-34.50 บาท เกาะติดเงินเฟ้อไทย-สถานการณ์สงครามการค้า

ธนาคารกสิกรไทย [KBANK] มองสัปดาห์ระหว่างวันที่ 3-7 มี.ค. 2568 กรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่ระดับ 33.60-34.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเดือนก.พ. ของไทย สถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนและประเทศคู่ค้าอื่น ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ผลการประชุม ECB ทิศทางราคาทองคำในตลาดโลกและสัญญาณฟันด์โฟลว์ในตลาดการเงินไทย

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี ISM/PMI ภาคการผลิตและภาคบริการ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานเดือนก.พ. ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนม.ค. รายงาน Beige Book ของเฟด รวมถึงตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) และตัวเลขเศรษฐกิจต่างประเทศอื่นๆอาทิ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนก.พ.ของจีน ญี่ปุ่น ยูโรโซน และอังกฤษ อัตราเงินเฟ้อเดือนก.พ. ของยูโรโซน และตัวเลขการส่งออกเดือนม.ค.-ก.พ. ของจีนด้วยเช่นกัน

ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 4 เดือน (นับตั้งแต่ 22 ต.ค. 2567) ที่ 33.38 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงต้นสัปดาห์สอดคล้องกับการปรับตัวขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ของราคาทองคำในตลาดโลก

อย่างไรก็ดี เงินบาทพลิกกลับมาอ่อนค่าลงในช่วงกลาง-ปลายสัปดาห์ หลังกนง. มีมติไม่เป็นเอกฉันท์ 6 ต่อ 1 เสียง ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยลง 0.25% มาที่ระดับ 2.00% (ตลาดคาดว่า กนง. จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 2.25% ตามเดิม) ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ ยังมีแรงหนุนเพิ่มเติมตามสัญญาณตึงเครียดของสงครามการค้า หลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวย้ำว่าสหรัฐฯจะมีการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกในอัตรา 25% และจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนเพิ่มอีก10% โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 มี.ค. นี้ เงินบาทยังคงปรับตัวอ่อนค่าในช่วงปลายสัปดาห์ โดยอ่อนค่าผ่านแนว 34.00ไปแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 5 สัปดาห์ที่ 34.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ ตามทิศทางฟันด์โฟลว์ต่างชาติ และการย่อตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลกที่หลุดระดับ 2,900 ดอลลาร์ฯ ต่อออนซ์ลงมา

ในวันศุกร์ที่ 28 ก.พ. 2568 เงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ 34.12 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 33.61 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (21 ก.พ.)

สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 24-28 ก.พ. 2568 นั้น นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 10,232 ล้านบาทและมีสถานะอยู่ในฝั่ง Net Outflowsออกจากตลาดพันธบัตรไทย 531 ล้านบาท (แบ่งเป็นซื้อสุทธิพันธบัตร 494 ล้านบาท แต่ตราสารหนี้หมดอายุ 1,025 ล้านบาท)

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 มี.ค. 68)

Tags: , , , ,