WICE เป้าปี 68 โตทะลุ 15% ฝ่าความท้าทายนโยบาย “ทรัมป์” มั่นใจกำไรฟื้นจากปีก่อนวูบรับ One-Time Expenses

นายชูเดช คงสุนทร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ WICE ขณะที่ปี 2568 บริษัทยังคงตั้งเป้าหมายการเติบโตไม่น้อยกว่า 15% โดยมองว่าธุรกิจโลจิสติกส์มีโอกาสในการเติบโตไปพร้อมกับเศรษฐกิจโลก ที่ยังต้องพึ่งพาการขนส่งในทุกรูปแบบในการเชื่อมต่อโลก ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและบริการที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ซึ่งการขนส่งทางเรือยังเป็นเส้นทางหลักสำหรับการขนส่งระหว่างประเทศ เนื่องจากมีต้นทุนต่ำและสามารถขนส่งได้ในปริมาณมาก ขณะที่การขนส่งทางอากาศเหมาะสำหรับสินค้าที่มีมูลค่าสูงและต้องการความสะดวกรวดเร็วที่ขยายตัวควบคู่ไปกับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

WICE จะยังคงเน้นการสร้างเครือข่ายระหว่างบริษัทย่อย เพื่อสร้างความแข็งแกร่งด้านการให้บริการกับลูกค้าในการเชื่อมต่อการขนส่งให้ครอบคลุมทั่วภูมิภาคและครบวงจร พร้อมทั้งหาตลาดใหม่ๆ เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้า ตลอดจนการสร้างโซลูชั่นการบริการให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าควบคู่ไปด้วยกัน นอกจากนี้บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการหาโอกาสทางธุรกิจกับกลุ่มพันธมิตรเพื่อให้เกิดการ synergy ร่วมกันและนำไปสู่การเติบโตที่ยั่งยืนในอนาคต

“ปีนี้ถือเป็นปีที่ท้าทายในการดำเนินธุรกิจ เพราะมีปัจจัยที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา จากนโยบายต่างๆของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเราเตรียมพร้อมรับมือปัจจัยที่อาจจะส่งผลกระทบต่อบริษัท อย่างไรก็ตามเรายังมองว่าแผนงานในภูมิภาคที่เราดำเนินการอยู่ รวมไปถึงการฐานการผลิตและการขยายตัวที่ตลาดฟิลิปปินส์ซึ่งเพิ่งเริ่มดำเนินการในช่วงปลายปีที่แล้ว จะทำให้เราเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ไม่น้อยกว่า 15%”นายชูเดชกล่าวเพิ่มเติม

ผลดำเนินงานปี 2567 ว่า บริษัทมีรายได้ 4,099 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.8% จากปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 98 ล้านบาท ลดลง 40.5% จากปีก่อน เนื่องจากการตั้งสำรองค่าใช้จ่ายในการให้กู้ยืมเงินของบริษัท เอ็น-สแควร์ อีคอมเมิร์ซ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัท Start up ที่ดำเนินธุรกิจด้านการจัดจำหน่ายและให้บริการอีคอมเมิร์ซครบวงจร โดยอยู่ระหว่างการดำเนินคดีในชั้นศาล

นายชูเดช กล่าวว่า การตั้งสำรองครั้งนี้ ถือเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวจบ (One-Time Expenses) ประกอบกับผลการดำเนินงานของบริษัทย่อยที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ทำให้บริษัทมีการขาดทุนในช่วงไตรมาส 4/67 อย่างไรก็ตามบริษัทเตรียมปรับโครงสร้างภายในบริษัทย่อยและเตรียมแผนการรับมือเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจากปัจจัยต่างๆในอนาคต เช่น การผันผวนของค่าเงินบาทเป็นต้น

“กำไรที่ลดลงเกิดจากการตั้งสำรองที่เกิดขึ้นครั้งเดียวเท่านั้น ซึ่งจะไม่กระทบต่อไปในอนาคต ขณะที่การรับรู้ผลขาดทุนของบริษัทย่อย บริษัทไม่ได้นิ่งนอนใจในประเด็นดังกล่าว บริษัทเตรียมปรับโครงสร้างภายในบริษัทย่อยเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสะท้อนผลการดำเนินงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด ขณะที่มองว่าภาพรวมของธุรกิจยังมีแนวโน้มที่ดี แต่อาจจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยที่นอกเหนือการควบคุม ซึ่งบริษัทจะเร่งดำเนินการแก้ไขและป้องกันความเสี่ยงให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด” นายชูเดช กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ก.พ. 68)

Tags: , , ,