เซอร์เก รยาบคอฟ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย เปิดเผยกับสำนักข่าวอาร์ไอเอ (RIA) ว่า รัสเซียต้องการทำข้อตกลงสันติภาพระยะยาวซึ่งสามารถจัดการต้นตอความขัดแย้งกับยูเครนได้ ไม่ใช่ข้อตกลงแบบที่สหรัฐฯ ผลักดันให้ทั้งสองฝ่ายหยุดยิงอย่างรวดเร็วเพื่อกลับมาต่อสู้กันใหม่ในระยะเวลาอันสั้น
รมช.ต่างประเทศรัสเซียกล่าวถึงความต้องการทำข้อตกลงที่ยืนยาวกับยูเครนในบทสัมภาษณ์ที่เผยแพร่วันนี้ (24 ก.พ.) ซึ่งตรงกับวันครบรอบ 3 ปีที่รัสเซียส่งทหารหลายหมื่นนายเข้าสู่ยูเครนตามคำสั่งของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน
“เรารับรู้ได้ว่า ฝ่ายอเมริกันต้องการมุ่งไปสู่การหยุดยิงโดยเร็ว แต่ … การหยุดยิงโดยไม่มีการทำข้อตกลงระยะยาวคือหนทางที่จะนำการสู้รบและความขัดแย้งให้กลับคืนมาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับผลกระทบตามมาที่จะร้ายแรงยิ่งขึ้น ซึ่งรวมถึงผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯ ซึ่งเราไม่ต้องการให้เป็นเช่นนี้” รมช.ต่างประเทศรัสเซียกล่าว
“เราจำเป็นต้องหาทางออกระยะยาว ซึ่งจำเป็นที่จะต้องจัดการกับต้นตอของสิ่งที่เกิดขึ้นในและรอบยูเครน” เขากล่าว พร้อมทั้งระบุว่า การเจรจาระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯ ในกรุงริยาดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งทางการรัสเซียตกลงที่จะทำงานเพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ทวิภาคีและเตรียมการเจรจากับยูเครนนั้น ไม่ได้ให้ความชัดเจนเกี่ยวกับแผนการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการผลักดันข้อตกลงสันติภาพกับยูเครน
นอกจากนี้ เขาย้ำจุดยืนของรัสเซียด้วยว่า รัสเซียไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเปิดฉาก “ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร” ในยูเครน เนื่องจากพันธมิตรนาโต (NATO) เดินหน้าขยายอิทธิพลไปทางตะวันออก “อย่างไร้การควบคุม” นอกจากนี้ รมช.ต่างประเทศรัสเซียยังวิพากษ์วิจารณ์สิ่งที่เขาเรียกว่า การเหยียบย่ำสิทธิของประชากรที่พูดภาษารัสเซียในยูเครน ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่ยูเครนปฏิเสธมาโดยตลอด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ก.พ. 68)
Tags: ยูเครน, รัสเซีย, สหรัฐ, เซอร์เก รยาบคอฟ