ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก all-time high ขานรับผลประกอบการแกร่ง

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพุธ (12 ก.พ.) ที่ระดับสูงสุดตลอดกาล เนื่องจากนักลงทุนขานรับผลประกอบการของบริษัทไฮเนเก้น (Heineken) และเอบีเอ็น เอ็มโร (ABN Amro) แม้ยังคงมีความระมัดระวังเกี่ยวกับข้อมูลเงินเฟ้อและนโยบายการค้าของสหรัฐฯ

  • ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 547.78 จุด เพิ่มขึ้น 0.60 จุด หรือ +0.11%
  • ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,042.19 จุด เพิ่มขึ้น 13.29 จุด หรือ +0.17%,
  • ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 22,148.03 จุด เพิ่มขึ้น 110.20 จุด หรือ +0.50% และ
  • ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,807.44 จุด เพิ่มขึ้น 30.05 จุด หรือ +0.34%

หุ้นกลุ่มธนาคารนำตลาดปรับตัวขึ้น โดยบวก 1.1% หลังหุ้นเอบีเอ็น แอมโรของเนเธอร์แลนด์ พุ่งขึ้น 8.2% สู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 5 ปี หลังเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 4 สูงเกินคาด

หุ้นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม บวก 1% โดยหุ้นไฮเนเก้นพุ่งขึ้น 14.4% หลังรายงานผลกำไรดีเกินคาด, ประกาศซื้อหุ้นคืน และคาดการณ์ผลกำไรจากการดำเนินงานที่ขยายตัวในปีนี้

หุ้นแอนไฮเซอร์-บุช อินเบฟ (Anheuser-Busch InBev) และหุ้นคาร์ลสเบิร์ก (Carlsberg) พุ่งขึ้น 2.8% และ 3.2% ตามลำดับ

แต่หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคร่วงลง 1% เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยุโรปปรับตัวขึ้น หลังจากข้อมูลสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่าราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบเกือบ 1 ปีครึ่งในเดือนม.ค. ส่งผลให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวในปีนี้

นักลงทุนเตรียมรับมือกับสงครามการค้าทั่วโลกที่ทวีความรุนแรงขึ้น โดยคาดว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ จะประกาศนโยบายภาษีตอบโต้ ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะได้รับการตอบโต้จากสหภาพยุโรป (EU) พึ่งพาการส่งออก

แม้มีความไม่แน่นอนด้านการค้าทั่วโลก แต่ดัชนี Stoxx 600 ปรับตัวขึ้นเกือบ 8% แล้วในปีนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทบางแห่งในยุโรป และคาดการณ์ว่าค่าเงินยูโรที่อ่อนค่าจะช่วยกระตุ้นรายได้ของบริษัทที่พึ่งพาการส่งออกในระยะสั้น

ข้อมูลจาก LSEG บ่งชี้ว่า บริษัทเกือบ 59% จาก 129 บริษัทในดัชนี Stoxx 600 ที่รายงานผลประกอบการรายไตรมาสออกมาแล้วนั้น มีผลประกอบการดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ก.พ. 68)

Tags: ,