กรมประมง ประกาศปิดอ่าวไทย เริ่ม 15 ก.พ. คุ้มครองพันธุ์สัตว์น้ำ-รักษาระบบนิเวศ

กรมประมงจัด พิธีประกาศใช้มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อนในทะเลอ่าวไทย ประจำปี 2568 (ปิดอ่าวไทย) พร้อมประกาศใช้มาตรการฉบับใหม่ 4 ฉบับ โดยยังคง 2 ช่วงเวลาต่อเนื่องกัน ช่วงที่ 1 : วันที่ 15 ก.พ.-15 พ.ค. กำหนดมาตรการปิดอ่าวไทยตอนกลาง และช่วงที่ 2 : วันที่ 16 พ.ค.-14 มิ.ย. กำหนดมาตรการปิดอ่าวไทยตอนกลาง และเขตต่อเนื่อง

นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า มาตรการ “ปิดอ่าวไทย” เป็นมาตรการสำคัญในการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน ในฝั่งทะเลอ่าวไทย มีวัตถุประสงค์เพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำให้มีใช้อย่างยั่งยืน สอดคล้องกับนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการทรัพยากรประมงให้เกิดความยั่งยืน พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการสร้างการรับรู้ความเข้าใจและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนเป็นสำคัญด้วย

โดยในปีนี้ กรมประมง ยังดำเนินมาตรการปิดอ่าวไทยในช่วงเวลาและพื้นที่เดิม แต่มีการปรับปรุงข้อกำหนดของเครื่องมือประมงบางชนิด เพื่อให้สอดคล้องกับการเคลื่อนที่และวงจรชีวิตของปลาทู โดยผลการสำรวจพื้นที่อ่าวไทยตอนกลางเขตประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี ในช่วงเวลา 15 ก.พ. – 15 พ.ค. พบพ่อแม่พันธุ์ปลาทูมีความสมบูรณ์เพศ และพร้อมผสมพันธุ์ มากกว่า 80%

ในขณะที่ผลการสำรวจเขตทะเลชายฝั่ง ตามแผนที่แนบท้ายของประกาศปิดอ่าวไทยตอนกลางของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และในเขตต่อเนื่อง ในช่วงเวลา 16 พ.ค.-14 มิ.ย. พบลูกปลาวัยอ่อนเจริญเติบโตเลี้ยงตัวบริเวณชายฝั่ง และพบลูกปลาขนาดเล็ก เดินทางเคลื่อนเข้าสู่อ่าวไทยรูปตัว ก เพื่อเจริญเติบโตเป็นพ่อแม่พันธุ์

นอกจากนี้ ผลการสำรวจยังพบว่าชาวประมงบางส่วน มีการปรับเปลี่ยนเครื่องมือและวิธีการทำการประมงในช่วงประกาศใช้มาตราการปิดอ่าวอีกด้วย

อย่างไรก็ดี เพื่อให้สอดคล้องกับข้อมูลทางวิชาการ ข้อกฎหมาย และบริบทการทำการประมงที่มีการเปลี่ยนแปลง กรมประมง จึงได้ออกประกาศกรมประมงเพิ่มเติมจากเดิมที่ใช้อยู่ 2 ฉบับเป็น 4 ฉบับ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในรายละเอียดการทำการประมง โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อกำหนดเรื่องความยาวอวนติดตาปลาและวิธีการทำการประมง ในช่วงที่ 1 (15 ก.พ.-15 พ.ค.) และข้อกำหนดเรื่องการใช้เครื่องมืออวนครอบ อวนช้อน หรืออวนยกหมึก ที่ใช้ประกอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (เครื่องปั่นไฟ) ของมาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน บริเวณทะเลอ่าวไทยตอนกลาง (มาตรการปิดอ่าวไทย) ดังนี้

1. ประกาศกรมประมง เรื่อง กำหนดพื้นที่และระยะเวลาฤดูสัตว์น้ำมีไข่ หรือวางไข่ เลี้ยงตัวอ่อนในที่จับสัตว์น้ำบางส่วนของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี พ.ศ. 2568 ลงวันที่ 22 มกราคม 2568

2. ประกาศกรมประมง เรื่อง กำหนดพื้นที่และระยะเวลาฤดูสัตว์น้ำมีไข่ หรือวางไข่ เลี้ยงตัวอ่อนในที่จับสัตว์น้ำบางส่วนของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. 2568 ลงวันที่ 22 มกราคม 2568

3. ประกาศกรมประมง เรื่อง กำหนดพื้นที่และระยะเวลาฤดูสัตว์น้ำมีไข่ หรือวางไข่ เลี้ยงตัวอ่อนในที่จับสัตว์น้ำบางส่วนของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ลงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568

4. ประกาศกรมประมง เรื่อง กำหนดพื้นที่และระยะเวลาฤดูสัตว์น้ำมีไข่ หรือวางไข่ เลี้ยงตัวอ่อนในที่จับสัตว์น้ำบางส่วนของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ลงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568

โดยประกาศทั้ง 4 ฉบับ ได้ผ่านการรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสีย อาทิ ชาวประมง ผู้ประกอบการ นักวิชาการ ฯลฯ และผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการพิจารณากำหนดมาตรการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำ ประกอบด้วย ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่าง ๆ จากหน่วยงานภายใน และภายนอกกรมประมง และอาจารย์มหาวิทยาลัยแล้ว

อธิบดีกรมประมง กล่าวขอขอบคุณพี่น้องชาวประมง ที่เสียสละการทำประมงบางส่วน เพื่อร่วมกันอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำในทะเลไทย ให้การปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอดมา และขอให้ระมัดระวังการทำประมง โดยให้ทำประมงเฉพาะเครื่องมือและวิธีทำการประมงที่ประกาศให้ใช้ได้เท่านั้น ห้ามใช้เครื่องมืออื่น ๆ โดยเด็ดขาด

หากผู้ใดฝ่าฝืน จะมีความผิดตามตามมาตรา 70 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ต้องระวางโทษ ปรับตั้งแต่ 5,000 บาทถึง 30 ล้านบาท ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับขนาดของเรือประมง หรือปรับจำนวน 5 เท่าของมูลค่าสัตว์น้ำที่ได้จากการทำการประมงแล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า และต้องได้รับโทษทางปกครองอีกด้วย

“กรมประมง หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการปรับปรุงมาตรการในครั้งนี้ จะช่วยคุ้มครองพ่อแม่พันธุ์สัตว์น้ำ ให้ได้มีโอกาสผสมพันธุ์ วางไข่ และสร้างประชากรสัตว์น้ำรุ่นใหม่ ขึ้นมาหมุนเวียนในระบบนิเวศได้อย่างยั่งยืน” อธิบดีกรมประมง ระบุ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ก.พ. 68)

Tags: , ,