หุ้นเทสลา (Tesla) ร่วงลงกว่า 6% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กในวันอังคาร (11 ก.พ.) และปรับตัวลงอีกเกือบ 1% ในช่วงเช้าวันนี้ (12 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าบริษัทเทสลาของอีลอน มัสก์ จะล้าหลังคู่แข่งอย่างบีวายดี (BYD) ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน หลังจากบีวายดีประกาศแผนพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับร่วมกับดีปซีค (DeepSeek) และระบุว่าจะติดตั้งระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะในรถรุ่นใหม่เกือบทั้งหมด
นอกจากนี้ หุ้นเทสลายังได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับข่าวที่อีลอน มัสก์ เริ่มหันไปให้ความสนใจในด้านอื่นนอกเหนือจากมุ่งเน้นการพัฒนารถเทสลา โดยรายงานระบุว่า กลุ่มนักลงทุนซึ่งนำโดยอีลอน มัสก์ เสนอเงินมูลค่า 9.74 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อซื้อกิจการโอเพนเอไอ (OpenAI) ขณะเดียวกันเขาเริ่มมีบทบาทมากขึ้นในคณะบริการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ในฐานะผู้นำกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล (DOGE)
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า หุ้นเทสลาปรับตัวลงติดต่อกัน 5 วันทำการ โดยดิ่งลงเกือบ 17% ในช่วงเวลาดังกล่าว มาอยู่ที่ระดับ 328.50 ดอลลาร์ในวันอังคาร ส่งผลให้มูลค่าตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ของเทสลาลดลงไปกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์
บีวายดีซึ่งผงาดขึ้นมาเป็นคู่แข่งรายใหญ่ที่สุดของเทสลานั้น ได้ประกาศเมื่อวันจันทร์ (10 ก.พ.) ว่า รถ EV รุ่นใหม่อย่างน้อย 21 รุ่นของบีวายพีจะมาพร้อมกับระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติ ซึ่งรวมถึงฟีเจอร์จอดรถอัตโนมัติและการนำทางบนทางหลวง
ขณะที่เทสลายังไม่ได้ให้บริการรถแท็กซี่ไร้คนขับ หรือ Robotaxi ขณะที่รถ EV ของเทสลาในปัจจุบันก็ยังต้องมีคนขับหน้าพวงมาลัย เพื่อพร้อมที่จะบังคับหรือเบรกได้ตลอดเวลา ส่วนในการประชุมรายงานผลประกอบการของเทสลาเมื่อเดือนที่แล้ว เทสลายังคงยืนยันแผนการเปิดตัวระบบขับขี่อัตโนมัติแบบสมบูรณ์ (Full Self-Driving) หรือ FSD
ที่ผ่านมานั้น นักลงทุนผิดหวังกับผลประกอบการของเทสลา โดยในไตรมาส 4/2567 เทสลามีกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 73 เซนต์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 76 เซนต์ และรายได้รวมอยู่ที่ 2.571 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 2.726 หมื่นล้านดอลลาร์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ก.พ. 68)
Tags: Tesla, หุ้น Tesla, หุ้นร่วง