นักเศรษฐศาสตร์จากเวสต์แพค แบงกิง คอร์ป เตือนว่า สงครามการค้าที่นำโดยสหรัฐฯ อาจทำให้สถานการณ์เงินเฟ้อในออสเตรเลียรุนแรงขึ้น เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงิน
มันทัส วานากัส นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของเวสต์แพค ระบุในรายงานที่เผยแพร่วันนี้ (7 ก.พ.) ว่า การที่สหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีนำเข้าจะทำให้สินค้าจากสหรัฐฯ มีราคาแพงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาสินค้าและบริการที่ออสเตรเลียนำเข้าสูงขึ้นตามไปด้วย
“หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ราคาสินค้าในประเทศก็มีแนวโน้มจะปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะสินค้าที่ไม่มีแหล่งนำเข้าทดแทน รวมถึงสินค้าที่ผลิตภายในประเทศ” วานากัสกล่าว
นอกจากนี้ วานากัสยังชี้ว่าแม้ออสเตรเลียอยู่ในจุดที่ได้เปรียบที่จะไม่ถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าโดยตรง เพราะนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ มากกว่าที่ส่งออกไป แต่ประเทศยังคงมีความเสี่ยงจากผลกระทบจากกีดกันทางการค้าที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก
วานากัสระบุว่า เงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงราว 10% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ นับตั้งแต่แตะระดับสูงสุดในช่วงปลายเดือน ก.ย.
“หากเงินออสเตรเลียอ่อนค่าอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน ก็อาจเพิ่มแรงกดดันต่อเงินเฟ้อภายในประเทศ” วานากัสกล่าว พร้อมเสริมว่า “นอกจากผลกระทบต่อตลาดการเงินแล้ว ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นและความเชื่อมั่นที่ลดลงจากภาษีการค้าทั่วโลก ก็อาจเป็นปัจจัยฉุดรั้งการเติบโตของเศรษฐกิจออสเตรเลียอย่างมีนัยสำคัญ”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ก.พ. 68)
Tags: สงครามการค้า, สหรัฐ, ออสเตรเลีย, เงินเฟ้อ