อีโตชู คอร์ป (Itochu Corp.) บริษัทเทรดดิ้งรายใหญ่ของญี่ปุ่น เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดี (6 ก.พ.) ว่า บริษัทกำลังพิจารณาการร่วมลงทุนซื้อกิจการของเซเว่น แอนด์ ไอ โฮลดิ้งส์ (Seven & i Holdings Co.) ตามที่ครอบครัวผู้ก่อตั้งเสนอมาเพื่อขัดขวางการซื้อกิจการโดยอาลีมองตาซิยง คูช-ตาร์ (Alimentation Couche-Tard) ยักษ์ใหญ่ร้านสะดวกซื้อของแคนาดา
ฮาชิมูระ สึโยชิ รองประธานบริหารของอีโตชู กล่าวว่า บริษัทกำลังพิจารณาข้อเสนอดังกล่าวอย่างรอบคอบ และยังไม่ได้ตัดสินใจใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ผู้บริหารระดับสูงของอีโตชูกล่าวด้วยว่า บริษัทสามารถจัดการได้ไม่ว่าสถานการณ์จะออกมาในรูปแบบใด เนื่องจากการจัดหาเงินทุนสำหรับการลงทุนครั้งใหญ่นี้ไม่ใช่ปัญหา
แหล่งข่าววงในเปิดเผยเมื่อเดือนที่แล้วว่า อีโตชู ซึ่งเป็นเจ้าของกิจการร้านสะดวกซื้อ แฟมิลี่มาร์ท (FamilyMart) กำลังพิจารณาลงทุนประมาณ 1 ล้านล้านเยนในบริษัทเซเว่น แอนด์ ไอ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการเครือร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น (7-Eleven) ของญี่ปุ่น หลังจากเมื่อปีที่แล้ว เซเว่น แอนด์ ไอ ได้รับข้อเสนอจากอาลีมองตาซิยง คูช-ตาร์ เพื่อซื้อกิจการเป็นมูลค่ากว่า 7 ล้านล้านเยน แต่ตระกูลอิโตะ ผู้ก่อตั้งเซเว่นฯ พยายามขัดขวาง และได้เสนอซื้อกิจการในรูปแบบ Management Buyout (MBO) พร้อมทั้งขอให้อีโตชู และบริษัทอื่น ๆ พิจารณาเข้าร่วมลงทุนเพื่อถอนหุ้นเซเว่น แอนด์ ไอออกจากตลาดและกลับเป็นบริษัทเอกชน
ทั้งนี้ เอ็นเอชเครายงานว่า การจะนำบริษัทออกจากตลาดหลักทรัพย์จำเป็นต้องใช้เงินมากกว่า 8 ล้านล้านเยน และตระกูลผู้ก่อตั้งกำลังเจรจากับธนาคารขนาดใหญ่และสถาบันการเงินอื่น ๆ เพื่อจัดหาเงินทุน นอกจากนี้ กลุ่มผู้ก่อตั้งยังได้ทาบทามบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (CP) ซึ่งเป็นพันธมิตรด้านทุนกับบริษัทอิโตชู ให้ร่วมลงทุนซื้อกิจการด้วย
ขณะที่ล่าสุด บมจ.ซีพีออลล์ [CPALL] บริษัทในเครือซีพีและเป็นผู้ดำเนินธุรกิจร้านเซเว่น อีเลฟเว่น (7-Eleven) ในประเทศไทย ชี้แจงเกี่ยวกับกรณีบริษัทค้าปลีกของประเทศญี่ปุ่นมองหาผู้ร่วมลงทุนว่า “บริษัทฯ ขอยืนยันว่า ณ ปัจจุบัน บริษัทฯ ยังไม่มีการดำเนินการและไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากที่เคยแจ้งไว้ ทั้งนี้ หากบริษัทฯมีการดำเนินการใด ๆ บริษัทฯจะทำการชี้แจงต่อสาธารณะผ่านช่องทางของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไป”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ก.พ. 68)