เงินบาทเปิด 33.76 แข็งค่า หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐแย่กว่าคาดฉุดดอลลาร์อ่อน

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 33.76 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 33.83 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์ปรับตัวอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หลังตัวเลขยอดขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์ของสหรัฐฯ ออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้

ส่วนปัจจัยในประเทศตลาดรอดูกระแสเงินทุนระหว่างประเทศ (Flow) ในตลาดพันธบัตร ตลาดหุ้น รวมถึงการค้าทองคำ

“บาทแข็งค่าจากเย็นวานนี้ตามค่าเงินในภูมิภาค เนื่องจากดอลลาร์ย่อตัวลงมาหลังตัวเลขว่างงานของสหรัฐฯ ออกมาแย่กว่าคาด ระหว่างวันรอดู Flow ในตลาดหุ้น พันธบัตร และทอง”

นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 33.60 – 33.90 บาท/ดอลลาร์

*ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 151.02 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 152.66 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0384 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0361 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท. อยู่ที่ระดับ 33.664 บาท/ดอลลาร์
  • วายแอลจีชี้ทองคำยังไปได้อีกมีลุ้นถึง 3,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ล่าสุดขึ้นทำ All Time High ที่ 2,882 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ขณะที่ทองแท่ง 96.5% ในไทยทำ All Time High ที่ 45,650 บาทต่อบาททองคำ ยังมีลุ้นเห็น 50,000 บาทต่อบาททองคำ หากค่าเงินอ่อนค่าต่อเนื่อง
  • นายแบงก์มองตรงกัน “กรุงเทพ-กสิกรไทย” ชี้ไทยไม่รอดสงครามการค้ารอบใหม่ “กอบศักดิ์” เปิดผลกระทบทรัมป์ 5 ด้าน แนะไทยทำตัวเงียบๆ ไม่ให้เป็นจุดโฟกัส เน้นเจรจาต่อรองยอมเสียน้อยดีกว่าเสียมาก
  • หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร เผยว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2568 มีแนวโน้มขยายตัวที่ 2.6% ชะลอตัวจากปีก่อนหน้าที่คาดไว้ที่ 2.7% เล็กน้อย ซึ่งแม้จะมีแรงส่งสำคัญจากภาคท่องเที่ยวและภาคบริการ แต่แรงส่งนี้มีแนวโน้มชะลอตัวลงจากการฟื้นตัวกลับมาเกือบปกติของภาคท่องเที่ยว ในขณะที่ปัญหาความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมและภาคส่งออกยังเป็นแรงกดดันที่สำคัญต่อเศรษฐกิจไทย และการหดตัวของสินเชื่อภาคธนาคารจากปัญหาหนี้ครัวเรือนและภาวะเศรษฐกิจกำลังส่งผลทางลบต่อการบริโภคสินค้าคงทนและภาคอสังหาริมทรัพย์
  • คณะกรรมการนโยบายการเงิน (MPC) ของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติด้วยคะแนนเสียง 7-2 ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.50% ในการประชุมวานนี้ (6 ก.พ.) สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก เพิ่มขึ้น 11,000 ราย สู่ระดับ 219,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 213,000 ราย
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (6 ก.พ.) ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนม.ค.ของสหรัฐฯ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่วนเงินปอนด์อ่อนค่าลงหลังจากธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติไม่เป็นเอกฉันท์ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้ ขณะที่แอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการ BoE ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (6 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ติดต่อกันหลายวัน ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ มีกำหนดเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนม.ค.ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 154,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 256,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. และคาดว่า
    อัตราว่างงานเดือนม.ค.ทรงตัวที่ระดับ 4.1%
  • FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 18-19 มี.ค. แต่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ก.พ. 68)

Tags: , ,