ดาวโจนส์ปิดลบ 125.65 จุด จับตาผลประกอบการ Amazon, จ้างงานสหรัฐฯ

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (6 ก.พ.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน ขณะที่นักลงทุนประเมินผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งที่มีการรายงานล่าสุด และรอดูผลประกอบการของบริษัทอะเมซอน (Amazon) รวมทั้งตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)

  • ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,747.63 จุด ลดลง 125.65 จุด หรือ -0.28%,
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,083.57 จุด เพิ่มขึ้น 22.09 จุด หรือ +0.36% และ
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,791.99 จุด เพิ่มขึ้น 99.66 จุด หรือ +0.51%

หุ้นอะเมซอนปรับตัวขึ้น 1.1% ก่อนที่บริษัทจะเปิดเผยผลประกอบการหลังตลาดปิดทำการ โดยนักลงทุนจับตาการลงทุนด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของอะเมซอน หลังจากดีปซีค (DeepSeek) ซึ่งเป็นธุรกิจสตาร์ตอัปของจีนเปิดตัวโมเดล AI ที่มีประสิทธิภาพและใช้ต้นทุนต่ำ ซึ่งทำให้นักลงทุนเริ่มพิจารณาถึงเม็ดเงินหลายพันล้านดอลลาร์ที่บริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ใช้ไปกับการพัฒนาเทคโนโลยีนี้

ซาคารี ฮิลล์ หัวหน้าฝ่ายบริหารพอร์ตการลงทุนของบริษัท Horizon Investments กล่าวว่า ขณะนี้นักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนมากกว่าเรื่องภาษีศุลกากร ประเด็นเรื่อง AI ได้สร้างความผันผวนให้กับตลาดอย่างมากในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากมีข่าวการเปิดตัวโมเดล AI ของ DeepSeek และตลาดกำลังจับตาว่าอะเมซอนจะพูดถึงเรื่องนี้อย่างไร

ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนม.ค.ของสหรัฐฯ ในวันนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินแนวโน้มตลาดแรงงานและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 18-19 มี.ค. แต่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย.

หุ้น 8 ใน 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและกลุ่มการเงินซึ่งปรับตัวขึ้น 0.88% และ 0.84% ตามลำดับ ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงมากที่สุด โดยร่วงลง 1.64%

หุ้นควอลคอมม์ (Qualcomm) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ ร่วงลง 3.7% หลังจากผู้บริหารของควอลคอมม์กล่าวว่า ธุรกิจการให้สิทธิบัตร (patent-licensing business) ซึ่งเป็นธุรกิจที่เคยทำกำไรสูงให้กับบริษัทนั้น อาจจะชะลอตัวลงในปีนี้ หลังจากข้อตกลงการอนุญาตให้ใช้สิทธิบัตรกับบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยีส์ (Huawei Technologies) หมดอายุลง

หุ้นฮันนีเวลล์ (Honeywell) ซึ่งเป็นบริษัทอุตสาหกรรมรายใหญ่ของสหรัฐฯ ดิ่งลง 5.6% และเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ฉุดดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนลบ หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการปีงบการเงิน 2568 ที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

หุ้นฟิลิป มอร์ริส อินเตอร์เนชันแนล (Philip Morris International) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตบุหรี่รายใหญ่ของสหรัฐฯ ทะยานขึ้น 10.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดในไตรมาส 4/2564 และเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์กำไรในปีงบการเงิน 2568 ที่สูงกว่าคาด

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก เพิ่มขึ้น 11,000 ราย สู่ระดับ 219,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 213,000 ราย

ส่วนตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนม.ค.ของสหรัฐฯ ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 154,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 256,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนม.ค.ทรงตัวที่ระดับ 4.1%

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ก.พ. 68)

Tags: , , ,