น้ำมัน WTI ปิดลบ 42 เซนต์ กังวลทรัมป์เดินหน้าเพิ่มผลิตน้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (6 ก.พ.) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ย้ำว่าจะผลักดันการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันที่สูงขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตลาดได้รับแรงกดดันอยู่ก่อนแล้ว จากรายงานสต็อกน้ำมันดิบที่สูงเกินคาดของสหรัฐฯ

  • ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 42 เซนต์ หรือ 0.59% ปิดที่ 70.61 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 32 เซนต์ หรือ 0.43% ปิดที่ 74.29 ดอลลาร์/บาร์เรล

ปธน.ทรัมป์ได้เน้นย้ำว่าเขาจะผลักดันการเพิ่มผลิตน้ำมันในสหรัฐฯ โดยหลังจากเสร็จสิ้นการสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ปธน.ทรัมปืได้ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานแห่งชาติเพื่อลดราคาพลังงานในสหรัฐฯ ด้วยการเพิ่มการขุดเจาะน้ำมัน วางท่อน้ำมัน และตั้งโรงกลั่นน้ำมัน

การประกาศภาวะฉุกเฉินดังกล่าวสอดคล้องกับการกล่าวปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนส.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งทรัมป์กล่าวว่า เขาจะประกาศภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานแห่งชาติในวันแรกที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี เพื่อลดราคาน้ำมันเบนซินและค่าไฟของชาวอเมริกันลงครึ่งหนึ่งภายในช่วงปีแรกที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี

ความเคลื่อนไหวล่าสุดของปธน.ทรัมป์ได้ฉุดราคาน้ำมันปรับตัวลง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ราคาน้ำมันได้ถูกกดดันอยู่ก่อนแล้ว จากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์พุ่งขึ้น 8.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.4 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 900,000 บาร์เรล

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ก.พ. 68)

Tags: , ,