“ทรัมป์” เดินหน้ากดดันอิหร่านเต็มสูบอีกครั้ง เล็งสกัดการส่งออกน้ำมันให้เป็นศูนย์

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เดินเครื่องนโยบาย “กดดันขั้นสุด” กับอิหร่านอีกครั้งในวันอังคาร (4 ก.พ.) ซึ่งรวมถึงความพยายามผลักดันให้การส่งออกน้ำมันของอิหร่านเป็นศูนย์ เพื่อไม่ให้อิหร่านได้อาวุธนิวเคลียร์มาครอบครอง

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ทรัมป์ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงปธน. เพื่อนำนโยบายที่แข็งกร้าวของสหรัฐฯ ต่ออิหร่านกลับมาใช้อีกครั้ง ก่อนการประชุมร่วมกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล

บันทึกดังกล่าวของทรัมป์ได้สั่งการให้รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ สร้าง “แรงกดดันทางเศรษฐกิจกับอิหร่านให้มากที่สุด” ซึ่งรวมถึงการคว่ำบาตร และการบังคับใช้กลไกต่าง ๆ เพื่อตอบสนองต่อการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรที่มีอยู่เดิม

นอกจากนี้ ยังมีการกำชับกระทรวงการคลังและกระทรวงต่างประเทศให้ดำเนินนโยบายที่มีเป้าหมายเพื่อ “ลดการส่งออกน้ำมันของอิหร่านให้เป็นศูนย์” ด้วย

ทั้งนี้ ทรัมป์ระบุขณะลงนามในบันทึกดังกล่าวว่า นี่เป็นเรื่องที่ยากมาก พร้อมเผยว่า เขายินดีที่จะทำข้อตกลงกับอิหร่านและแสดงความเต็มใจที่พูดคุยกับผู้นำอิหร่าน

ทรัมป์กล่าวว่า “สำหรับผม มันไม่ซับซ้อนเลย อิหร่านต้องไม่มีอาวุธนิวเคลียร์” เมื่อถูกถามว่าอิหร่านใกล้จะได้ครอบครองอาวุธดังกล่าวมากแค่ไหน เขากล่าวว่า อิหร่าน “ใกล้ถึงขั้นนั้น” แล้ว

นอกจากนี้ ทรัมป์ยังกล่าวหาอดีตปธน.โจ ไบเดน ว่าล้มเหลวในการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันอย่างเข้มงวด ทำให้อิหร่านอาจหาญมากขึ้นและขายน้ำมันเพื่อระดมทุนให้กับโครงการอาวุธนิวเคลียร์และกองกำลังติดอาวุธในตะวันออกกลาง

หัวหน้าหน่วยงานกำกับดูแลนิวเคลียร์ของสหประชาชาติ (UN) ระบุว่า อิหร่านกำลังเร่งเสริมสมรรถนะยูเรเนียม “อย่างรวดเร็ว” ให้มีความบริสุทธิ์สูงสุดถึง 60% ซึ่งใกล้เคียงกับความบริสุทธิ์ 90% ของอาวุธนิวเคลียร์ ขณะที่อิหร่านยืนยันว่าไม่ได้ต้องการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์แต่อย่างใด

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ก.พ. 68)

Tags: ,