ทิสโก้ แจกโผ 7 หุ้นหลบภัยชั้นยอดรับมือตลาดหุ้นผันผวน P/BV ต่ำเข้าใกล้ช่วงวิกฤติ

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยในปัจจุบันอยู่ในภาวะ “ตกต่ำ” จนใกล้สุกงอมจาก อัตราส่วนราคาตลาดต่อมูลค่าตามบัญชี (P/BV) อยู่ในระดับต่ำ มูลค่าซื้อขายลดลงเกือบ 60% จากจุดสูงสุด และสภาพคล่องในตลาดลดลงต่อเนื่องในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา

สำหรับภาพรวมการลงทุนนั้นในเชิงกลยุทธ์ เราให้น้ำหนักกลุ่มที่มีสัญญาณแข็งแกร่งกว่าตลาดในปีนี้ เช่น กลุ่ม BANK และกลุ่ม COMM โดยเน้นที่อยู่ใน SETHD Index ที่มีโอกาสชนะตลาดในระยะสั้น ผสานกับหุ้นอิงการบริโภคในประเทศที่ได้ประโยชน์จากมาตรการภาครัฐ คือ E-Receipt-แจกเงินหมื่น-ลดค่าไฟ-ไฮซีซั่นการท่องเที่ยว และไม่ได้รับผลกระทบจากนโยบายทรัมป์ คือ AP, BBL, BJC, CRC, KGI, KTB และ TASCO

“หุ้นกลุ่ม BANK และกลุ่ม COMM เป็นกลุ่มที่น่าสนใจในช่วงนี้ โดยเน้นหุ้นใน SETHD Index ที่มีโอกาสชนะตลาดในระยะสั้น คือ AP, BBL, KTB, TASCO ผสานกับหุ้นอิงการบริโภคในประเทศที่ได้ประโยชน์จากมาตรการภาครัฐ และไม่ได้รับผลกระทบจากนโยบายทรัมป์ คือ BJC และ CRC และหุ้นม้ามืดที่อาจถูกหยิบขึ้นมาเก็งกำไรในเดือนกุมภาพันธ์จากการจ่ายเงินปันผลที่สูง คือ KGI

เพราะฉะนั้น หุ้นเด่นที่เราแนะนำในเดือนกุมภาพันธ์ คือ AP, BBL, BJC, CRC, KGI, KTB และ TASCO ด้านแนวรับสำคัญของเดือนนี้อยู่ที่ 1,300 จุด และแนวรับต่ำไปคือ 1,270-1,280 จุด แนวต้านสำคัญอยู่ที่ 1,340 จุด และ 1,365-1,370 จุด ตามลำดับ” นายอภิชาติ กล่าว

บล.ทิสโก้ มองว่า ตลาดหุ้นไทยอยู่ในภาวะตกต่ำจาก 3 ปัจจัย คือ อัตราส่วนราคาตลาดต่อมูลค่าตามบัญชี (P/BV) โดยรวมถืออยู่ในโซนต่ำบนเส้นแนวโน้ม PBV ระยะยาวที่เคยผ่านวิกฤติมาแล้ว 3 ครั้ง คือ วิกฤติต้มยำกุ้งปี 2540 วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ปี 2551 และ วิกฤติโควิดปี 2563 ที่บริเวณ 0.5-0.6 เท่า, 0.8-0.9 เท่า และ 1.1-1.2 เท่าตามลำดับ

นอกจากนี้ ในปัจจุบันมีสัดส่วนหุ้นที่ซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี (BV) (PBV < 1x) จำนวนมากถึง 58% ของหุ้นทั้งหมด 926 ตัวทั้งในตลาด SET และ mai เทียบกับช่วงวิกฤติ 3 ครั้งก่อนที่สัดส่วนนี้อยู่ที่ 60-70%

ภาวะตกต่ำของตลาดนอกจากจะดูได้จากระดับ PBV ในตลาดแล้ว ยังสามารถดูได้จากมูลค่าการซื้อขายในตลาด ปัจจุบันลดลงจากที่เคยขึ้นไปสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เฉลี่ยวันละ 8.8 หมื่นล้านบาทในปี 2564 มาเหลือเพียง 3.7 หมื่นล้านบาทในเดือนที่แล้ว หรือลดลงเกือบ 60% ขณะที่ Turnover Ratio ก็ลดลงเหลือเพียงประมาณ 20% ต้น ๆ ซึ่งเป็นระดับ -1SD จากค่าเฉลี่ยระยะยาว

นอกจากนี้ ตัวชี้วัดสภาพคล่องในตลาดโดยผ่านการกู้ยืมเงินเพื่อซื้อหุ้นหรือการจำนำหุ้นในการค้ำประกันเงินกู้ปรับตัวลดลงต่อเนื่องในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาจากระดับสูงสุดที่มีมูลค่ากว่า 4.14 แสนล้านบาท ลดลงมากกว่า 40% เหลือ 2.44 แสนล้านบาทในปัจจุบัน ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในระยะยาวแล้ว สะท้อนการ Deleverage ของตลาดไปมากพอสมควรแล้ว ดังนั้นเราการถูกบังคับขายจากการปรับตัวลงของราคาหุ้นไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อตลาดอย่างมีนัยสำคัญเหมือนที่ผ่านมาแล้ว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ก.พ. 68)

Tags: , , , ,