เทสลา (Tesla) ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของสหรัฐฯ เปิดเผยกำไรและรายได้ประจำไตรมาส 4/2567 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้
ทั้งนี้ กำไรต่อหุ้นของเทสลาอยู่ที่ 73 เซนต์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ที่ได้รับการสำรวจโดยแอลเอสอีจี (LSEG) คาดการณ์ไว้ที่ 76 เซนต์ และรายได้รวมอยู่ที่ 2.571 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 2.726 หมื่นล้านดอลลาร์
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า รายได้ของเทสลาปรับตัวขึ้น 2% จากระดับ 2.517 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า แต่รายได้จากธุรกิจยานยนต์ร่วงหนักถึง 8% สู่ระดับ 1.98 หมื่นล้านดอลลาร์ จากระดับ 2.156 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า
ส่วนกำไรจากการดำเนินงานลดลง 23% สู่ระดับ 1.6 พันล้านดอลลาร์ โดยบริษัทระบุว่าสาเหตุหลักมาจากราคาขายเฉลี่ยของรถยนต์ไฟฟ้าที่ปรับตัวลงในทุกรุ่น ได้แก่ Model 3, Model Y, Model S และ Model X
แม้เทสลาจะไม่ได้เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการสำหรับปีนี้ แต่บริษัทคาดว่าธุรกิจยานยนต์จะกลับมาเติบโตอีกครั้งในปี 2568 อีกทั้งบริษัทยังยืนยันแผนการเปิดตัวระบบขับขี่อัตโนมัติแบบสมบูรณ์ (Full Self-Driving) หรือ FSD และบริการเรียกรถแบบไร้คนขับในบางพื้นที่ของสหรัฐฯ ภายในปีนี้
อีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลากล่าวในระหว่างการเปิดเผยผลประกอบการว่า บริษัทจะเปิดให้บริการระบบขับขี่อัตโนมัติ FSD ในออสติน รัฐเท็กซัส ในเดือนมิถุนายนนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ม.ค. 68)
Tags: Tesla, รถยนต์ไฟฟ้า, เทสลา