Nvidia ชี้ ความสำเร็จของ DeepSeek ตอกย้ำความต้องการชิปที่เพิ่มขึ้น

Nvidia ออกโรงแสดงความเห็นว่า ความสำเร็จของ DeepSeek บริษัท AI จากจีน เป็นตัวชี้ให้เห็นว่า ชิปของตนยังมีบทบาทสำคัญในตลาดจีน และในอนาคตก็จะยิ่งมีความต้องการชิปเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับการขยายตัวของบริการจาก DeepSeek

Nvidia ออกแถลงการณ์ในวันจันทร์ (27 ม.ค.) หลังราคาหุ้นของบริษัทดิ่งลง 17% เหลือ 118.58 ดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า DeepSeek สามารถพัฒนาระบบที่มีประสิทธิภาพทัดเทียม OpenAI โดยใช้ชิป Nvidia น้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับบริษัทอื่น ๆ ของสหรัฐฯ ด้านหุ้น Advanced Micro Devices (AMD) คู่แข่งของ Nvidia ก็ร่วงลงไปด้วยกว่า 6% มาอยู่ที่ 115.01 ดอลลาร์

ในแถลงการณ์ Nvidia ระบุว่า “ผลงานของ DeepSeek แสดงให้เห็นว่า เราสามารถพัฒนาโมเดลรุ่นใหม่ ๆ ได้ด้วยวิธีการนี้ โดยต่อยอดจากโมเดลและกำลังประมวลผลที่มีใช้กันทั่วไปอยู่แล้ว ซึ่งทั้งหมดนี้สอดคล้องกับกฎการควบคุมการส่งออกทุกประการ”

จากรายงานวิจัยชิ้นหนึ่งของ DeepSeek เผยว่า บริษัทใช้ชิป H800 จาก Nvidia ราว 2,000 ชิ้น ซึ่งเป็นรุ่นที่ออกแบบมาให้สอดคล้องกับมาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ ที่ประกาศใช้เมื่อปี 2565 โดยผู้เชี่ยวชาญให้ข้อมูลกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า มาตรการควบคุมการส่งออกดังกล่าวแทบไม่ส่งผลกระทบต่อความก้าวหน้าด้าน AI ของจีนเลย

อนึ่ง มาตรการควบคุมการส่งออกชิปของสหรัฐฯ มีขึ้นเพื่อสกัดกั้นจีนไม่ให้พัฒนาซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่จะนำไปใช้พัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และระบบ AI

จิมมี กูดริช ที่ปรึกษาอาวุโสด้านการวิเคราะห์เทคโนโลยีของ RAND Corp เผยว่า จีนมีซูเปอร์คอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่อย่างน้อยสิบกว่าเครื่องที่ใช้ชิป Nvidia จำนวนมาก ซึ่งในช่วงที่ DeepSeek นำไปใช้พัฒนาประสิทธิภาพนั้น การซื้อชิปเหล่านี้ยังถูกกฎหมายอยู่ ซึ่งการพัฒนาประสิทธิภาพในการประมวลผลนี้ก็เป็นสิ่งที่บริษัท AI ในสหรัฐฯ ให้ความสำคัญเช่นกัน

“DeepSeek ไม่ได้เกิดขึ้นมาลอย ๆ พวกเขาทุ่มเทพัฒนาโมเดลมาหลายปีแล้ว ใคร ๆ ก็รู้มานานแล้วว่า DeepSeek มีทีมงานที่เก่งมาก ๆ และถ้าพวกเขามีกำลังประมวลผลมากกว่านี้ ก็คงเดาไม่ถูกเลยว่าพวกเขาจะทำอะไรได้อีกบ้าง” กูดริชกล่าว

DeepSeek กำลังรับมือกับสถานการณ์ที่ผู้ใช้ใหม่ทะลักเข้ามาเมื่อวันจันทร์ การประมวลผลเพื่อให้บริการผู้ใช้ใหม่เหล่านี้เป็นขั้นตอนที่ในวงการ AI เรียกว่า “อินเฟอเรนซ์” (Inference) ซึ่ง Nvidia ชี้ว่านี่เป็นเครื่องยืนยันว่าชิปของบริษัทจะยังเป็นที่ต้องการต่อไป

“อินเฟอเรนซ์ต้องใช้ GPU ของ Nvidia จำนวนมากและระบบเครือข่ายประสิทธิภาพสูง” Nvidia กล่าวในแถลงการณ์

ตอนนี้ Nvidia กำลังวางขายชิปรุ่น H20 ที่ออกแบบมาให้สอดคล้องกับกฎควบคุมการส่งออกล่าสุด แม้จะมีข้อจำกัดที่ทำให้ใช้ฝึกฝน AI ได้ไม่เต็มที่ แต่กูดริชบอกว่าชิปตัวนี้ “น่าจะเป็นชิปที่เก่งที่สุดในโลกในแง่ของอินเฟอเรนซ์”

“แล้วทางวอชิงตันจะปล่อยให้มีการขายชิปที่เก่งที่สุดในโลกด้านอินเฟอเรนซ์ให้จีนได้อีกนานแค่ไหนกัน” กูดริชกล่าวเสริม

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ม.ค. 68)

Tags: , , ,