ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพฤหัสบดี (23 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการกล่าวสุนทรพจน์ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ต่อที่ประชุมเศรษฐกิจโลกที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แต่การปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสกัดกั้นการปรับตัวขึ้นของตลาด
- ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 530.34 จุด เพิ่มขึ้น 2.30 จุด หรือ +0.44%
- ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,892.61 จุด เพิ่มขึ้น 55.21 จุด หรือ +0.70%,
- ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 21,411.53 จุด เพิ่มขึ้น 157.26 จุด หรือ +0.74% และ
- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,565.20 จุด เพิ่มขึ้น 20.07 จุด หรือ +0.23%
ดัชนี Stoxx 600 ปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 7 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดในรอบกว่า 1 เดือน หลังแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ระหว่างวันในวันพุธ
ตลาดหุ้นยุโรปพุ่งขึ้นในช่วงท้ายการซื้อขาย หลังปธน.ทรัมป์กล่าวสุนทรพจน์เรียกร้องให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงทันที และเรียกร้องให้ประเทศอื่น ๆ ดำเนินมาตรการเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังกล่าวว่า ธุรกิจต่าง ๆ ควรผลิตสินค้าในสหรัฐฯ หากต้องการหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้า
แต่ตลาดถูกสกัดกั้นจากการที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง 1.5% หลังหุ้นเอเอสเอ็มแอล (ASML) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิปคอมพิวเตอร์ ร่วง 4.4%
หุ้นกลุ่มธนาคารบวก 1.8% โดยหุ้นสเวดแบงก์ (Swedbank) พุ่ง 4.2% หลังเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 4 สูงกว่าคาด และเสนอเพิ่มการจ่ายเงินปันผลประจำปีมากกว่าคาด
ธนาคารกลางนอร์เวย์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไม่เปลี่ยนแปลงตามคาดที่ 4.50% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 17 ปี และวางแผนที่จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.
นักลงทุนจะรอดูการเปิดเผยข้อมูลดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ประจำเดือนม.ค.จากยูโรโซน, เยอรมนี, ฝรั่งเศส และอังกฤษในวันศุกร์นี้
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาผลการประชุมและความเห็นจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในสัปดาห์หน้า ซึ่งคาดว่า ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ม.ค. 68)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นยุโรป