ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าผันผวน หลัง “ทรัมป์” ส่งสัญญาณรีดภาษีจีนเดือนหน้า

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าผันผวนในวันนี้ (22 ม.ค.) โดยตลาดหุ้นจีนและตลาดหุ้นฮ่องกงร่วงลงหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า เขากำลังพิจารณาปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 10% ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.

ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 19,836.39 จุด ลดลง 270.16 จุด หรือ -1.34% ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,215.37 จุด ลดลง 27.25 จุด หรือ -0.84% และดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ระดับ 39,604.71 จุด เพิ่มขึ้น 576.73 จุด หรือ +1.48%

ดัชนี S&P/ASX 200 ปรับตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวขึ้น 0.36% ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ดีดขึ้น 1%

ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงปิดภาคเช้าอ่อนแรงลง หลังจากปธน.ทรัมป์เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า คณะบริหารของเขากำลังหารือกันเกี่ยวกับการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 10% โดยพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ว่าจีนกำลังส่งเฟนทานิลเข้าไปยังเม็กซิโกและแคนาดา ซึ่งยาเสพติดร้ายแรงดังกล่าวได้ไหลเข้าสู่สหรัฐฯ

“วันที่ 1 ก.พ. อาจจะเป็นวันที่เราเริ่มดำเนินการในเรื่องนี้” ปธน.ทรัมป์กล่าว

ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ได้รับแรงหนุนหลังจากปธน.ทรัมป์ประกาศว่า บริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งจะลงทุนด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในสหรัฐฯ ซึ่งทำให้นักลงทุนมีมุมมองเชิงบวกต่อบริษัทเทคโนโลยีในเอเชีย

ปธน.ทรัมป์ประกาศในวันอังคาร (21 ม.ค.) ว่า ซอฟต์แบงก์ กรุ๊ป (SoftBank Group) ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น รวมถึงโอเพนเอไอ (OpenAI) และ ออราเคิล คอร์ป (Oracle Corp) จะจัดตั้งบริษัทแห่งใหม่ที่จะลงทุนอย่างน้อย 5 แสนล้านดอลลาร์ในโครงสร้างพื้นฐานด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในสหรัฐฯ ซึ่งจะสร้างงานจำนวนมากในประเทศ

ซอฟต์แบงก์ กรุ๊ป และโอเพนเอไอของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้พัฒนาแชตจีพีที (ChatGPT) แถลงว่า การลงทุนภายใต้โครงการที่มีชื่อว่า สตาร์เกต โปรเจกต์ (Stargate Project) จะเกิดขึ้นในช่วง 4 ปีข้างหน้า เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI ใหม่สำหรับโอเพนเอไอ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ม.ค. 68)

Tags: ,