LH ตั้งเป้าปี 68 ยอดขาย 2.3 หมื่นลบ.ยอดโอน 2 หมื่นลบ.เปิดแค่ 4 โครงการใหม่พร้อมดันรายได้ค่าเช่าเพิ่ม

นายนพร สุนทรจิตต์เจริญ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ [LH] กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายในปี 68 ที่ 2.3 หมื่นล้านบาท และยอดโอน 2 หมื่นล้านบาท โดยวางแผนเปิดโครงการใหม่ 4 โครงการ มูลค่ารวม 1.18 หมื่นล้านบาท เป็นบ้านแนวราบระดับกลาง-บน ทำเลกรุงเทพฯและปริมณฑล 3 โครงการ และภูเก็ต 1 โครงการ เน้นบ้านเดี่ยวระดับราคา 8-15 ล้านบาทภายใต้แบรนด์ Siwalee และบ้านเดี่ยวระดับราคา 30-8 ล้านบาท คือ Nantawan และ VIVE ขณะที่มีแผนปรับราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยเพิ่มขึ้นมาเป็น 10.5 ล้านบาท จากปีก่อนที่ 9.8 ล้านบาท

บริษัทมองว่าภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 68 น่าจะได้รับปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจที่คาดว่าจะเติบโตขึ้นราว 2.9% และอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มลดลง โดยการเติบโตทางเศรษฐกิจจะมาจากการใช้จ่ายของภาครัฐ และภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตขึ้น แม้ภาคการส่งออกยังชะลอตัวอาจกดดันให้เศรษฐกิจเติบโตไม่สูงมากนัก และความต้องกลรซื้ออสังหาริมทรัพย์ยังได้รับแรงกดันจากยอดคงค้างสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) ที่ปรับสูงขึ้น และระดับหนี้ครัวเรือนสูง ทำให้สถาบันการเงินยังคงเข้มงวดในการให้สินชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย

“ปีนี้เศรษฐกิจยังคงซึมๆ และ sentiment ยังไม่ดี ทำให้ปีนี้เราก็ไม่ได้รุกการเปิดโครงการใหม่มาก ซึ่งโครงการใหม่ลดลงจาก 12 โครงการในปีที่แล้วมาเปิดเพียง 4 โครงการในปีนี้ เพราะสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญในปีนี้คือการรักษาสภาพคล่อง และระมัดระวังการใช้เงินลงทุน”

นายนพพร กล่าว

ขณะที่ปัจจัยบวกจากการท่องเที่ยวในปี 68 ที่ยังมีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่อง ทำให้บริษัทเดินหน้าเปิดโรงแรมใหม่เพิ่มขึ้น โดยมีกำหนดเปิดโรงแรม Grande Centre Point ลุมพินี ในเดือนเม.ย.นี้ เป็น Mixed Use ประกอบด้วย พื้นที่สำนักงาน 12,700 ตารางเมตร และโรงแรมขนาด 512 ห้อง พร้อมพื้นที่จัดเลี้ยงที่มากที่สุดในเครือโรงแรม Grande Centre Point เพื่อเป็นปัจจัยหนุนรายได้ธุรกิจอสังหาริมาทรัพย์เพื่อเช่าแตะ 9.24 พันล้านบาทในปีนี้

รวมถึงยังมีการลงทุนก่อสร้างโรงแรมใหม่ 2 โรงแรมที่อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง ได้แก่ Grande Centre Point ราชดำริ 2 ที่เตรียมเปิดในปี 69 และ Grande Centre Point Pattaya 3 ในปี 70

นอกจากนี้ บริษัทจะมีการปรับพอร์ตการลงทุนในสหรัฐ โดยอาจจะลดสัดส่วนของอพาร์ตเมนต์ที่มีอยู่ 3 แห่ง ซึ่งเริ่มมียีลด์ลดลงตามสถานการณ์หลังการแพร่งระบาดโควิด-19 และหันมาเน้นการดำเนินธุรกิจโรงแรม 2 แห่ง

สำหรับงบลงทุนของบริษัทในปี 68 วางไว้ที่ 8.5 พันล้านบาท แบ่งเป็นงบซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย 4 พันล้านบาท และงบลงทุนอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่า 4.5 พันล้านบาท พร้อมกับวางแผนออกหุ้นกู้ใหม่เพื่อทดแทนหุ้นกู้ชุดเดิมที่ครบกำหนดอายุในปีนี้ 1.2 หมื่นล้านบาท และคาดว่าอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) จะลดลงมาที่ 1 เท่า จากปีก่อนที่ 1.3 เท่า

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ม.ค. 68)

Tags: , , ,