ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก กลุ่มเฮลท์แคร์-สินค้าหรูหราหนุนตลาด

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันอังคาร (21 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์และกลุ่มสินค้าหรูหรา แต่การปรับตัวขึ้นได้ถูกสกัดจากความไม่แน่นอนที่ยังคงมีอยู่เกี่ยวกับมาตรการเก็บภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐหลังการเข้ารับตำแหน่ง

  • ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 525.98 จุด เพิ่มขึ้น 2.11 จุด หรือ +0.40%
  • ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,770.95 จุด เพิ่มขึ้น 37.45 จุด หรือ +0.48%,
  • ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 21,042.00 จุด เพิ่มขึ้น 51.69 จุด หรือ +0.25% และ
  • ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,548.29 จุด เพิ่มขึ้น 27.75 จุด หรือ +0.33%

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน และปรับตัวขึ้น 5 วันติดต่อกัน ยาวนานที่สุดในรอบกว่า 1 เดือน

หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ ปรับตัวขึ้น 1.5% โดยหุ้นโนโว นอร์ดิสค์ (Novo Nordisk) พุ่ง 4%

หุ้นกลุ่มสินค้าหรูหราบวก 1.5% โดยได้แรงหนุนจากการทะยานขึ้น 5.3% ของหุ้นเบอเบอร์รี (Burberry) ขณะที่หุ้นกลุ่มสินค้าส่วนบุคคลและครัวเรือน บวก 1.2%

สหภาพยุโรป (EU) ส่งสัญญาณถึงความพร้อมที่จะร่วมมือและเจรจากับปธน.ทรัมป์ โดยเตือนถึงความจำเป็นในการหลีกเลี่ยงความขัดแย้งทางการค้าที่จะส่งผลกระทบต่อทั้งสองฝ่ายและเศรษฐกิจโลก

ทรัมป์ไม่ได้กำหนดภาษีนำเข้าในทันทีที่เข้ารับตำแหน่ง แต่ระบุว่าจะเก็บภาษี 25% จากสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกในวันที่ 1 ก.พ.

นอกจากนี้ ทรัมป์ยังได้เปิดเผยแผนการที่จะลดการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ กับ EU ด้วยการเก็บภาษีนำเข้าหรือการส่งออกพลังงานให้กับยุโรปมากขึ้น

บรรดานักลงทุนจะจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของยุโรปในสัปดาห์นี้ อาทิ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของยูโรโซน, เยอรมนี, อังกฤษ และฝรั่งเศส

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ม.ค. 68)

Tags: ,