เงินบาทเปิด 34.10 แนวโน้มแข็งค่า หลังตลาดคลายกังวล “ทรัมป์” ยังไม่ตั้งกำแพงภาษีนำเข้า

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงิน บาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 34.10 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากปิดเมื่อวานที่ระดับ 34.26 บาท/ดอลลาร์

โดยช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) ทยอยแข็งค่าขึ้นในลักษณะ Sideways Down หนุนโดยการอ่อนค่าลงของเงิน ดอลลาร์ ที่มาพร้อมกับการปรับตัวลดลงของบอนด์ยีลด์ 10 ปีสหรัฐฯ หลังผู้เล่นในตลาดคลายกังวลแนวโน้มการดำเนินนโยบายกีดกันทางการ ค้าของรัฐบาล Trump 2.0 ลงบ้าง เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐฯ อาจยังไม่รีบเดินหน้าขึ้นภาษีนำเข้ากับสินค้าจากประเทศต่างๆ ทันที แต่จะ เริ่มประเมินความสัมพันธ์ทางการค้ากับประเทศต่างๆ ก่อน

“ท่าทีของรัฐบาลใหม่สหรัฐฯ ต่อนโยบายการค้าและพลังงาน ได้หนุนให้ผู้เล่นในตลาดกลับมาเพิ่มโอกาสเฟดลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง เป็น 76%” นายพูน ระบุ

ทั้งนี้ ตลาดจะรอติดตามแนวโน้มการดำเนินนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล Trump 2.0 อย่างใกล้ชิด ส่วนในฝั่งยุโรป ตลาดจะ รอประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE)

สำหรับแนวโน้มของเงินบาท มีโอกาสทยอยแข็งค่าขึ้นได้ โดยต้องจับตาว่า เงินบาทจะสามารถแข็งค่าหลุดโซนแนวรับสำคัญ 34.00 บาท/ดอลลาร์ ได้หรือไม่ นอกจากนี้ ความกังวลต่อนโยบายพลังงานของรัฐบาล Trump 2.0 ที่กดดันราคาน้ำมันดิบ ก็อาจทำให้ผู้ เล่นในตลาดบางส่วนทยอยเข้าซื้อน้ำมันดิบ ซึ่งโฟลว์ธุรกรรมนี้ มีส่วนกดดันเงินบาทได้

นายพูน คาดกรอบเงินบาทวันนี้ จะอยู่ที่ระดับ 34.00-34.30 บาท/ดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 155.81 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 156.72 เยน/ดอลลาร์

  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0376 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.0409 ดอลลาร์/ยูโร

  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท. อยู่ที่ระดับ 34.366 บาท/ดอลลาร์

  • กลุ่มธนาคารพาณิชย์ เริ่มทยอยประกาศผลประกอบการปี 2567 โดยรวมถือว่าปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะงบปี 2567 ที่กำไรสุทธิออกมาเติบโตได้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะตัวที่เพิ่งประกาศงบไป เช่น ธนาคารทิสโก้ (TISCO) และธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) ที่นักวิเคราะห์มองว่า ผลประกาศการออกมาเป็นไปตามที่ประเมินไว้

  • “ททท.” เผยผลกระทบ “ซิงซิง” คาดทำนักท่องเที่ยวจีนหายวับ 10,000 คน ช่วงตรุษจีน ส่วนใหญ่เป็นกรุ๊ปทัวร์จากเมือง รอง พร้อมยันไม่เห็นด้วยกับเลิกเว้นวีซ่าแต่อาจลดวันพำนัก ขณะที่ “สทท.” ขอ “นายกฯ อิ๊งค์” เจรจา “สีจิ้นผิง” สร้างเชื่อมั่นเที่ยว ไทย จี้รองนายกฯ ฝ่ายมั่นคงแก้ปัญหาค้ามนุษย์-ปราบสแกมเมอร์

  • ภาคเอกชน-นักวิชาการ หนุนภาครัฐตั้งทีมเจรจาสหรัฐลดผลกระทบนโยบายทรัมป์ 2.0 หลังไทยได้ดุลการค้าอันดับ 12 ของสหรัฐ เสี่ยงถูกขึ้นภาษีนำเข้า 10% แนะตั้งวอร์รูมเจรจาต่อรองแบบยื่นหมูยื่นแมว ดึงภาคเอกชนร่วมทีมให้ข้อมูลการค้า “พาณิชย์” เผย เตรียมหารือยูเอสทีอาร์ ก.พ.นี้ “สภาพัฒน์” แนะผนึกอาเซียน เจรจาเพิ่มอำนาจต่อรอง

  • โดนัลด์ ทรัมป์ เสร็จสิ้นการสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 47 ที่อาคารรัฐสภาแล้ว ได้ประกาศนโยบายที่ เขาจะดำเนินการหลังการรับตำแหน่ง ซึ่งส่วนใหญ่จะสวนทางกับนโยบายของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน โดยนโยบายใหม่ของทรัมป์นั้น รวมถึงการประกาศภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานแห่งชาติเพื่อลดราคาพลังงานในสหรัฐฯ ด้วยการเพิ่มการขุดเจาะน้ำมัน วางท่อน้ำมัน และตั้ง โรงกลั่นน้ำมัน

  • ตลาดเงินนิวยอร์ก และ ตลาดทองคำนิวยอร์ก ปิดทำการวันจันทร์ที่ 20 ม.ค.เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์

  • ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่จะมีการรายงานในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนธ.ค.จาก Conference Board, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต และภาคบริการขั้นต้นเดือนม.ค, ยอด ขายบ้านมือสองเดือนธ.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นสุดท้ายเดือนม.ค.

  • นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลายแห่งในสัปดาห์นี้ โดยธนาคารกลางมาเลเซียจะประชุมใน วันพรุ่งนี้ (22 ม.ค.) ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าธนาคารกลางจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 3% ส่วนธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะประชุม ในวันที่ 23-24 ม.ค. โดยผู้ว่าการ BOJ ได้ส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ม.ค. 68)

Tags: , ,