จำนวนประชากรจีนลดลงต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน หวั่นกระทบเศรษฐกิจ

จำนวนประชากรจีนลดลงเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันในปี 2567 โดยมีอัตราการตายสูงกว่าอัตราการเกิดที่ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า แนวโน้มดังกล่าวจะย่ำแย่ในปีต่อ ๆ ไป

สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) ระบุว่า จำนวนประชากรทั้งหมดของจีนลดลง 1.39 ล้านคน เหลือ 1.408 พันล้านคนในปี 2567 เมื่อเทียบกับ 1.409 พันล้านคนในปี 2566

ข้อมูลที่เปิดเผยออกมาในวันนี้ (17 ม.ค.) ยิ่งตอกย้ำความกังวลว่า เศรษฐกิจจีนซึ่งใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกจะเผชิญความยากลำบาก ในขณะที่จำนวนแรงงานและผู้บริโภคลดลง

NBS เปิดเผยว่า จำนวนการเกิดทั้งหมดของจีนอยู่ที่ 9.54 ล้านคน ซึ่งสูงขึ้นเมื่อเทียบกับ 9.02 ล้านคนในปี 2566 โดยอัตราการเกิดเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 6.77 คนต่อประชากร 1,000 คนในปี 2567 จากระดับ 6.39 คนต่อประชากร 1,000 คนในปี 2566

ขณะเดียวกัน อัตราการตายของจีนอยู่ที่ 10.93 ล้านคนในปี 2567 ซึ่งลดลงมาเล็กน้อยจาก 11.1 ล้านคนในปี 2566

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อัตราการเกิดของจีนปรับตัวลงมาหลายสิบปีแล้ว อันเป็นผลมาจากนโยบายลูกคนเดียวของจีนที่มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2523-2558 ตลอดจนการขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็ว

ต้นทุนการเลี้ยงดูบุตรและการศึกษาที่สูง ตลอดจนความไม่มั่นคงของงานและเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงยังเป็นปัจจัยที่ทำให้ชาวจีนจำนวนมากไม่อยากแต่งงานและเริ่มต้นสร้างครอบครัว

นอกจากนี้ นักประชากรศาสตร์ยังกล่าวอีกว่า การเลือกปฏิบัติทางเพศและความคาดหวังแบบดั้งเดิมที่ผู้หญิงต้องดูแลบ้านทำให้ปัญหานี้รุนแรงขึ้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ม.ค. 68)

Tags: , ,