ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวลงในวันนี้ (13 ม.ค.) หลังสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่สูงเกินคาดเมื่อวันศุกร์ (10 ม.ค.) ซึ่งทำให้นักลงทุนลดความคาดหวังว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 18,807.68 จุด ลดลง 256.61 จุด หรือ -1.35% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,154.37 จุด ลดลง 14.15 0.45%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียร่วงลง 1.17% ขณะที่ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวลง 0.85% ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการในวันนี้ เนื่องในวันบรรลุนิติภาวะ (Coming of Age Day)
ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าปรับตัวลง แม้ว่าสำนักงานศุลกากรจีนเปิดเผยยอดส่งออกเดือนธ.ค.ของจีนพุ่งขึ้น 10.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 7.3% และยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 1% ในเดือนธ.ค. เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 1.5%
บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นเอเชียได้รับแรงกดดัน หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 256,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 154,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 212,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 4.1% ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 4.2%
นักลงทุนพากันเลื่อนคาดการณ์ต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของเฟดในปีนี้เป็นเดือนก.ค. จากเดิมที่คาดไว้ในเดือนมิ.ย. และคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวในปี 2568 หลังสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่สูงกว่าคาด
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ ที่นักลงทุนจับตาในสัปดาห์นี้ได้แก่ การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางเกาหลีใต้ในวันพฤหัสบดี (16 ม.ค.) และอัตราว่างงานประจำเดือนธ.ค.ของออสเตรเลียซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันเดียวกัน ส่วนในวันศุกร์ที่ 17 ม.ค. ทางการจีนจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2567 การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค. ยอดค้าปลีกเดือนธ.ค. และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเดือนธ.ค.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ม.ค. 68)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นเอเชีย